พิรุธ!!อนุญาตประทานบัตรเหมืองทองคำ"รุกป่า"

กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เผยหลักฐาน ประทานบัตร 4 แปลง ที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด หรือ "คิงส์เกต" ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เผยแพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ ว่า ขณะนี้ บริษัทฯได้รับอนุมัติใบอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ 4 ฉบับ ในพื้นที่เหมืองทองคำชาตรี จากรัฐบาลไทย อายุประทานบัตร 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.64 นั้น อยู่ในพื้นที่ป่าไม่ ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วเมื่อปี 2563

จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า แปลงประทานบัตรที่กระทระทรวงอุตสาหกรรม อนุญาตนั้น เป็นแปลงเดียวกันกับที่ถูกป่าไม้ แจ้งดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ไปแล้วเมื่อปี 2563 และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ประกอบด้วย 
1.แปลงประทานบัตรเลขที่ 26912/15367  
2.แปลงประทานบัตรเลขที่ 26911/15366 
3.แปลงประทานบัตรเลขที่ 26910/15365 

นอกจากนี้ยังเป็นแปลงที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองทองคำอัครา กรณีขุดถนนสาธารณะทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตรด้วย 

กรณีดังกล่าวนี้เป็นกรณีที่ไม่อาจจะอนุญาตให้ต่อประทานบัตรได้ เนื่องจากทำผิดกฎหมาย เพราะต้องถูกเพิกถอนประทานบัตร ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ 2560 

นอกจากนี้การอนุญาตโรงงานประกอบโลหกรรม ก็ยังไม่อาจอนุญาตได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินคดี กรณีประกอบโลหกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งข้อหาความผิดเดิมยังไม่ได้ดำเนินคดีเอาผิดให้เสร็จสิ้น โรงงานโลหกรรมจึงเป็นหลักฐานสำคัญในคดี 

การที่กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ได้เคยยื่นต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ให้ทำการเพิกถอนประทานบัตรของบริษัท อัคราฯ เจ้าของเหมืองทองคำอัครา จากกรณีทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตรในถนนทางหลวง และทางสาธารณะ การเพิกถอนจะส่งผลทำให้บริษัทเหมืองทองคำ สิ้นสิทธิที่เคยได้รับไปจากประเทศไทยและจะไม่สามารถดึงประเทศไทยเข้าสู่อนุญาโตตุลาการได้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

แต่นายสุริยะ กลับละเว้นไม่ดำเนินการใด ๆ และปล่อยให้ประเทศไทยถูกดึงเข้าสู่อนุญาโตตุลาการ 

ตรงกันข้าม กระทรวงอุตสาหกรรม กลับเร่งรีบอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ และประทานบัตร ให้กับบริษัท คิงส์เกตฯ ทั้งที่ทำผิดกฎหมายของประเทศไทยหลายกรณี 

ที่สำคัญ ผลชี้ขาดทางคดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ ยังไม่เป็นข้อยุติ เสร็จสิ้นแต่อย่างใด แต่กลับเร่งรีบอนุญาตอาชญาบัตร ประทานบัตร ให้กับบริษัท คิงส์เกตฯ ทั้งที่เป็นแปลงประทานบัตร ที่ทำผิดกฎหมาย และ อยู่ระหว่างดำเนินคดีเอาผิด รวมถึงต้องเพิกถอนประทานบัตร 

การกระทำดังกล่าวนี้จึงส่งผลทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศไทยแล้วในขณะนี้

ล่าสุด DSI ได้สอบสวนคดีฮั้วประมูล กรณีอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ 4 แสนไร่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ แล้ว และนี่เป็นเพียงเสี้ยวเดียวของเส้นทางกฎหมายที่ต้องสอบสวนดำเนินคดีเนื่องจากมีอีกหลายคดีที่จะต้องสอบสวนเอาผิดตามกฎหมายทั้งในมือของ DSI และ ป.ป.ช.