รุกป่าอุทยานฯสิรินาถโมเดลทวงคืนรร.หรูภูเก็ต

อุทยานแห่งชาติสิรินาถ มีพื้นที่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก ป่าเขาเมือง ซึ่งประกาศเป็นเขตป่าสงวนฯ เมื่อปี 2505 ตอนนั้น รัฐจ่ายชดเชยค่าที่ดินให้ชาวบ้าน 174 ราย ดังนั้น หลังจากปี 2505 ไม่ควรมีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนฯ และพื้นที่อุทยานฯ อีก

 
แต่ถึงกระนั้น พบว่ามีการนำเอา ส.ค.1 บินมาขอออกเอกสารสิทธิ์ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตั้งแต่ช่วงปี 2520-2540 โดยเป็นแปลงเล็ก ๆ
 

และตั้งแต่ปี 2547-2554 มีการนำส.ค. 1 มาออกเอกสารสิทธิ์เนื้อที่ตั้งแต่ 74 ไร่ ถึงกว่า 100 ไร่
 

ชีวะภาพ ชีวะธรรม อดีตหัวหน้าอุทธยานแห่งชาติสิรินาถ บอกว่า ช่วงการตรวจสอบที่ดิน ได้สอบถามคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ บอกว่า เมื่อปี 2498 ชาวบ้าน มีพื้นที่ทำกินไม่มากเพราะไม่มีเครื่องจักร การที่อ้างว่า ส.ค.1 เนื้อที่ 112 ไร่ 117 ไร่ จึงไม่มีชาวบ้านคนไหนจะมีพื้นที่มากขนาดนั้น

ชีวะภาพ บอกว่า เมื่อตรวจสอบลึกลงไปจะพบ นายทุนในจังหวัดภูเก็ต จากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง จ้างกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ 2-3 กลุ่ม เช่นกลุ่มชีวาส ประสานงาน และหานอมีนี มาดำเนินการแทน
 

ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภาคแรก มีการร้องทุกข์ดำเนินคดี 8 คดี โดยกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ 16 คน และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวน มี ประสาท พงศ์ศิวาภัย และ ณรงค์ รัฐอมฤต เป็นอนุกรรมการไต่สวน
โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหา 16 คน มาจาก
-สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
-กรมที่ดิน
-กรมอุทยานฯ
-กรมพัฒนาที่ดิน
-กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

หลังปี 2557 ยุทธการทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภาค 2 โดยมี "กิตติพัฒน์ ธาราภิบาล" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ขณะนั้น โดยอาศัยอำนาจตามประกาศ คสช.ที่ 64/2557
 
เริ่มจากแปลงที่อยู่ด้านหลังโรงแรม ภูเก็ต เพนนินซูล่า สปาแอนด์รีสอร์ท ของสุธาสินี หรือสีกาแอนด์ ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนเพราะสร้างผิดแบบ และรุกล้ำเขตอุทยานฯ โดยตรวจสอบ
ส.ค. 1 เลขที่ 32 ของ นายนคร วงษ์สีทอง เนื้อที่ 80 ไร่
ส.ค.1 เลขที่ 23 ของ น.ส.อโนมา ฝางเสน เนื้อที่ 96 ไร่
ส.ค.1 เลขที่ 110 ของนายจันทร์ พงษ์พา เนื้อที่ 80 ไร่
ส.ค.1 เลขที่ 44 ของนายประภาส แซ่อ๋อง เนื้อที่ 74 ไร่
ส.ค.1 เลขที่ 45 ของนายประภาส แซ่อ๋อง เนื้อที่ 96 ไร่
รวมพื้นที่ชายหาด 450 ไร่ มูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท

กรมที่ดิน เห็นชอบด้วยกับกรมอุทยานฯ ด้วยการเพิกถอนคำขอออกเอกสารสิทธิ์
 

นอกจากนี้ ตรวจสอบแปลงที่ออกเอกสารสิทธิ์ ปี 2552 ของนางชมชนก สุธัมมา และนายสุรชัย เหล่าสายเชื้อ ซึ่งกรมที่ดิน ตรวจสอบแล้วยืนยัน ว่านำ ส.ค.1 จากที่อื่นบินมาสวม
ตรวจสอบแปลงของนายประภาส แซ่อ๋อง ที่ขายให้กับ บริษัท พินนาเคิล เคป
 
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ในขณะนั้น ตั้งข้อสังเกตว่า การออกโฉนดที่ดิน 5 แปลง ผ่านนอมินีเพียงคนเดียว ทั้งๆ ที่เจ้าของ ส.ค.1 ทั้ง 5 แปลง ไม่น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน มอบอำนาจให้คนๆ เดียว ขอออกโฉนด ไม่ว่าจะเป็นการให้ถ้อยคำ เซ็นต์ข้างเคียง ดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมูลค่าที่ดินเกือบหมื่นล้านบาท
 
ตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองโฉนด น่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ไม่น่าจะมีศักยภาพครอบครองที่ดินมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ได้
 
ยุทธการทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภาค 2 ได้ที่ดินกลับคืนมา 450 ไร่

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมติคณะกรรมการคดีพิเศษ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 รับคดีการบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เป็นคดีพิเศษ
 
ต่อมา ศาลฎีกา พิพากษาให้กรมอุทยานฯ ชนะคดีราย นางสวรรยา ศิริพงศ์ บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ 2 แปลง เนื้อที่ 12 ไร่เศษ ศาลฎีกา ให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
 
นอกจากนี้ มีคดีที่ยื่นฟ้องผู้ครอบครองโฉนด ต่อศาลจังหวัดภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ร่วมกันเป็นพยาน ในที่สุดศาลจังหวัดภูเก็ต พิพากษาจำคุกและปรับผู้ที่ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินทั้ง 5 ราย คือ
1.น.ส.อโนมา ฝางเสน จำคุก 14 ปี ปรับเป็นเงิน 9 ล้านบาทเศษ
2.จำคุกนายประภาส แซ่อ๋อง 12 ปี ปรับ 9 ล้านบาทเศษ
3.จำคุกนายประภาส แซ่อ๋อง 12 ปี ปรับ 9 ล้านบาทเศษ
4.จำคุกนายนคร วงษ์สีทอง 13 ปี ปรับ 9 ล้านบาทเศษ
5.จำคุกนายจันทร์ พงษ์พา 8 ปี 8 เดือน ปรับ 9 ล้านบาทเศษ
 
และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ศาลอาญา พิพากษาคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ พิพากษาให้ นายอเนก ลีประชา หรือประชา นักล็อบบี้ยิสต์ จำเลยที่ 3 จำคุก 10 ปี ชดใช้ค่าเสียหาย 800 ล้านบาท
ยกฟ้อง นางชมชนก สุธัมมา จำเลยที่ 4
ส่วนจำเลยที่ 1 นายประภาส แซ่อ๋อง หลบหนีคดี
โดยคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายราย เสียชีวิตในระหว่างการดำเนินคดี 2 ราย
มูลค่าที่ดิน ประมาณ 15,000 ล้านบาท
 
1 ตุลาคม 2564 นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงคดีทุจริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นิรันดร์ กัลยาณมิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต วีรวัฒน์ จันทร์เพ็ญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กับพวกรวม 11 ราย มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และยังชี้มูลความผิดเอกชนที่เกี่ยวข้อง อีก 13 ราย กรณีการออกเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมิชอบ