ชี้เป้า 8 ผลไม้หน้าฝนคุณประโยชน์ฉ่ำ เลือกกินตามฤดูกาล ดีต่อสุขภาพ ดีต่อโลก

“ดอกไม้จะเบ่งบานเต็มที่เมื่อถึงเวลา” วลีที่ได้ยินบ่อยนี้อ้างอิงมาจากวัฏจักรของธรรมชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องของดอกไม้เท่านั้น แต่ “ผลไม้” ก็เช่นกัน เพราะแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีฤดูกาลประจำ หรือมีช่วงเวลาเจริญเติบโตได้ดีที่สุดและให้ผลผลิตมากที่สุดตามฤดูกาล

เทรนด์การกินตามฤดูกาล (Seasonal Eating) ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะผู้คนเริ่มเห็นคุณค่าและความสำคัญมากกว่าแค่เรื่องของรสชาติ หรือโภชนาการ แต่ยังตระหนักถึงความยั่งยืน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความสมดุลของระบบนิเวศ

กินผลไม้ตามฤดูกาล ดีอย่างไร?

ปลอดภัยต่อคน ดีต่อโลก : ผลไม้ที่ออกตามฤดูกาลทำให้เกษตรกรแทบจะไม่ต้องใส่ฮอร์โมนเร่งโต ไม่ต้องเพิ่มปุ๋ยหรือสารเคมีในการปลูกเพื่อให้ออกพืชผล เราก็ไม่ต้องเสี่ยงสารเคมีปนเปื้อน ส่วนดินก็ไม่ต้องถูกทำร้ายด้วยเคมีภัณฑ์

ราคาถูกกว่า : เนื่องจากผลไม้ตามฤดูกาลจะออกผลพร้อมๆ กัน ทำให้มีตัวเลือกมากมาย หาทานได้ง่าย จึงราคาถูกกว่าซื้อกินนอกฤดู แถมได้ของสด รสชาติอร่อยกว่าอีกด้วย

ข้อดีของหน้าฝนคือความชุ่มฉ่ำที่มากับน้ำ ความชื้น ดินในช่วงนี้จึงอุ้มน้ำและอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ ทำให้ผลไม้เติบโตเร็วจนสังเกตได้ว่าในตลาดจะเต็มไปด้วย “ผลไม้”

ผลไม้ที่ออกผลผลิตมากช่วงฤดูฝนในแต่ละเดือน ได้แก่

ผลไม้ฤดูฝน เดือนพฤษภาคม ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลิ้นจี่ ขนุน ระกำ ลูกหว้า สละ  และแก้วมังกร

ผลไม้ฤดูฝน เดือนมิถุนายน ได้แก่ เงาะ มังคุด ระกำ สับปะรด ทุเรียน ขนุน มะละกอ และกระท้อน 

ผลไม้ฤดูฝน เดือนกรกฎาคม ได้แก่ น้อยหน่า ลำไย กล้วยหักมุก กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม ส้มโอ มะยม แตงไทย ส้มเขียวหวาน สับปะรด ลางสาด และฝรั่ง

ผลไม้ฤดูฝน เดือนสิงหาคม ได้แก่ สับปะรด กล้วยหอม กล้วยไข่ ฝรั่ง มะเฟือง ลำไย ลองกอง ลางสาด มะยม น้อยหน่า ส้มเกลี้ยง และส้มโอ 

ผลไม้ฤดูฝน เดือนกันยายน ได้แก่ ฝรั่ง ลองกอง ลางสาด มะกอกน้ำ องุ่น มะยม เสาวรส กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม สับปะรด และมะเฟือง 

ผลไม้ฤดูฝน เดือนตุลาคม ได้แก่ ส้มเขียวหวาน มะขามป้อม มะเฟือง ฝรั่ง สาเก ขนุน มันแกว ลองกอง องุ่น เสาวรส กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และลองกอง

แนะนำ 8 ผลไม้ฤดูฝนที่มาพร้อมวิตามินกินต้านหวัด

1 มังคุด

ราชินีแห่งผลไม้ไทย อย่าง “มังคุด” เป็นผลไม้เขตร้อนที่มักออกผลผลิตในช่วงฤดูฝน รสชาติอร่อย ให้รสหวานนำอมเปรี้ยวนิดๆ ฉ่ำน้ำ คุณประโยชน์ของมังคุด อาทิ มีสารแซนโทน (Xanthone) ที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบ ความดันโลหิตและอาการแพ้ต่างๆ 

2 ส้มโอ

ส้มโอผลไม้หน้าฝน เพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน มีวิตามินซีสูง ต้านหวัด แก้ไอ ขับเสมหะ มีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูงจึงช่วยแก้ท้องผูกได้ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างต่ำ เนื้อส้มโอช่วยขับสารพิษในร่างกาย ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้เจริญอาหาร หรือเปลือกส้มโอที่มีสรรพคุณแก้ลม ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก และยังใช้เป็นส่วนประกอบในยาหอมสมุนไพร ช่วยแก้อาหารวิงเวียน

3 ลองกอง

ผลไม้หน้าฝน รสชาติหวานอร่อยอย่าง ลองกอง เป็นผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับลางสาด ให้พลังงาน 66 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เส้นใยอาหาร น้ำ วิตามินต่างๆ ฟอสฟอรัส แคลเซียม รวมถึงสรรพคุณต่างๆ อาทิ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นำเมล็ดไปใช้รักษาอาการท้องเสีย อาการไข้ ยาขับพยาธิ เป็นต้น

4 ฝรั่ง

ฝรั่งเป็นผลไม้หน้าฝนที่ม่วิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า มีใยอาหารมาก ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน เหมาะสําหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเพราะมีแคลอรีน้อย บำรุงผิวพรรณ

5 มะเฟือง

มะเฟืองเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหาย ถอนพิษไข้ มีส่วยช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ดี

6 ส้มเขียวหวาน

ผลไม้ยอดฮิตที่เห็นได้ในทุกฤดู สำหรับส้มเขียวหวานหน้าฝนมีแหล่งปลูกใหญ่ที่เพชรบุรี ตัวเนื้อของส้มเขียวหวานจะฉ่ำน้ำหวานสดชื่น มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันไข้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ แก้อาหารไม่ย่อย ช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น

7 กล้วยน้ำว้า

ในกล้วยน้ำว้าจะมีสารแทนนินอยู่มาก ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ แก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ให้แคลเซียมสูงที่สุดในบรรดากล้วยทั้งหมด

8 น้อยหน่า

อีกผลไม้หน้าฝน หวานหอมกินได้ไม่มีเบื่อคือ น้อยหน่า รสชาติหวานอร่อย เนื้อละเอียด มีกลิ่นหอมเฉพาะ ในประเทศไทยจะนิยมปลูกมากทางพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในน้อยหน่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร ไขมัน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และวิตามินต่างๆ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา มีไขมันต่ำเหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก บำรุงหัวใจ รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย

ทั้งนี้ แม้ว่าผลไม้ตามฤดูกาลจะมีสารตกค้างน้อยกว่าผลไม้นอกฤดูกาลก็ตาม แต่แนะนำว่าควรล้างให้สะอาดก่อนกินทุกครั้ง กินในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากในผลไม้มีน้ำตาลอยู่มาก ควรกินให้หลากหลาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อการมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่ายในทุกฤดู