
รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ "มะเร็งต่อมลูกหมาก" มะเร็งร้ายอันดับต้นๆ ของชายไทย
“ต่อมลูกหมาก” เป็นอวัยวะของผู้ชายซึ่งทำหน้าที่เป็นหูรูดควบคุมการปัสสาวะ สร้างน้ำเลี้ยงตัวอสุจิ และน้ำหล่อลื่นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เมื่ออายุมากขึ้นต่อมลูกหมากจะโตขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงอายุ และหากเซลล์ในต่อมลูกหมากมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติหรือลุกลามไปสู่อวัยวะอื่น ภาวะดังกล่าวอาจกลายเป็น “มะเร็งต่อมลูกหมาก” พบในคนที่สูงอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เนื่องจากเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งคนมีอายุยืนมากขึ้น
“โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก” ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในเพศชาย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทยโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (Cancer in Thailand Vol.X (2016-2018)) สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากรายใหม่วันละ 10 ราย หรือ 3,755 รายต่อปี เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก วันละ 5 ราย หรือ 1,654 รายต่อปี
สาเหตุการเกิด "มะเร็งต่อมลูกหมาก"
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอนของการเกิดมะเร็งชนิดนี้ แต่พบปัจจัยเสี่ยงที่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรค ดังนี้
“มะเร็งต่อมลูกหมาก” โรคร้ายที่อาจไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือน
สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะเริ่มต้นนั้นอาจไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือน แต่มักตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือพบสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากในเลือดสูงเกินค่าปกติ ทั้งนี้ เซลล์มะเร็งเมื่อขยายตัวจนเบียดท่อปัสสาวะจะทำให้ปัสสาวะลำบาก ไม่พุ่ง กลั้นไม่อยู่ ปวดแสบเวลาปัสสาวะ หรือมีเลือดปนมากับปัสสาวะหรืออสุจิ ซึ่งอาการเหล่านี้คล้ายคลึงกับโรคต่อมลูกหมากโต จึงต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการวินิจฉัยแยกโรค หากมะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลามอาจทำให้ปวดหลัง ปวดสะโพก กระดูกหักโดยไม่ทราบสาเหตุ น้ำหนักลด ขาบวม หรือตัวเหลืองตาเหลืองได้
อาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งชนิดนี้ไม่มีอาการแสดงเฉพาะ แต่พอมีข้อสังเกตให้เห็นเบื้องต้น เช่น
อย่างไรก็ตามข้อสังเกตเบื้องต้นนี้ มีอาการคล้ายกับโรคต่อมลูกหมากโต หรือโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อความแน่ใจ และป้องกันได้ทันท่วงที
"โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก" ป้องกันได้
จากการศึกษาพบว่า หากรับประทาน Lycopene ซึ่งเป็นสารที่พบในมะเขือเทศ ปริมาณอย่างน้อย 10–30 มิลลิกรัม/วัน สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่ที่สำคัญคือการดูแลรักษาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วยวิธีการดังนี้
1.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศสูงขึ้น
สารอาหารที่ได้รับในทุกๆ วัน ส่งผลอย่างมากต่อร่างกายในระยะยาว ฉะนั้น อาหารที่เข้าไปสะสมในร่างกายแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยง หรือบริโภคให้น้อยลง อาทิ อาหารไขมันสูง เนื้อแดง เป็นต้น เพราะไขมัน ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศสูงขึ้น เป็นตัวเร่งให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้รวดเร็ว
2.เลือกกินอาหารที่มีคุณประโยชน์ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ชายที่กินผักน้อยกว่า 14 หน่วยบริโภคต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงมากกว่าชายที่กินผักสัปดาห์ละ 28 หน่วยบริโภคถึง 50% โดยอาหารที่ส่งผลดีต่อการป้องกัน โรคมะเร็งต่อมลูกหมากมีดังนี้
3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ความอ้วนเกินเกณฑ์มีผลต่อระดับฮอร์โมนซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในรายที่อ้วนลงพุงจะส่งผลให้ระดับอินซูลินเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นการควบคุมน้ำหนักจึงเป็นสิ่งที่ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ควรงดอาหารที่มีรสหวานและเค็มจัดด้วย
งานวิจัยพบว่า การออกกำลังกายแบบหนัก 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการดูแลอาหารการกิน ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้มากถึง 61%
4.งดบุหรี่และแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์อย่างมากกับโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากถึง 2 เท่า ในผู้ที่สูบบุหรี่จัด มักมีปัญหาแทรกซ้อนจากการรักษา และมีความเสี่ยงการเสียชีวิตจากมะเร็งมากกว่าคนที่ไม่สูบ และการเลิกบุหรี่จะทำให้ลดการเกิดมะเร็งได้ 30% รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์หนักก็เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้นเช่นกัน
5.การหลั่งน้ำอสุจิ
ทางการแพทย์ของออสเตรเลียตั้งข้อสังเกตในโรคมะเร็งต่อมลูกหมากว่า การที่โรคนี้พบมากในผู้ชายสูงอายุ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ วัยหนุ่มมักจะมีการหลั่งบ่อยอยู่เสมอ ขณะที่ผู้ชายสูงอายุที่ไม่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอาจมีการหลั่งบ่อย ทำให้อัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้ทำการหลั่ง ฉะนั้น ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของกลุ่มผู้ชายสูงอายุนั่นคือ ปัญหาการแข็งตัว ซึ่งเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางแก้ไขต่อไป
ด้วยเหตุนี้ทางการแพทย์ของออสเตรเลียจึงมีการแนะนำว่า หากเริ่มเข้าสู่วัยที่อายุมากขึ้น ก็ควรหลั่งน้ำอสุจิบ่อยๆ เฉลี่ย 5 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 34%
6.ตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
สำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในปัจจุบัน แนะนำให้ตรวจในช่วงอายุระหว่าง 45-75 ปี ด้วยการคลำต่อมลูกหมากทางทวารหนักร่วมกับตรวจระดับสารบ่งชี้ในเลือด หากพบค่าสูงมากกว่า 4 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร หรือคลำพบก้อน บ่งชี้ถึงภาวะเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ถัดมาคือการเจาะเก็บชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากทางทวารหนักแบบสุ่ม โดยใช้เครื่องมือสอดเข้าทางทวารหนักเพื่อเจาะเก็บชิ้นเนื้อ 10-12 ชิ้น นำไปตรวจหาเชลล์มะเร็ง
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค โดยจะพิจารณาร่วมกับอายุและสุขภาพของผู้ป่วยด้วย เริ่มตั้งแต่การตรวจติดตามหรือเฝ้าระวังเชิงรุกในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยในกลุ่มที่มะเร็งมีการลุกลามต่ำ ไปจนถึงการผ่าตัดนำต่อมลูกหมากออก การใช้ยาลดฮอร์โมนเพศชาย การฉายแสง ฝังแร่ การให้ยาเคมีบำบัด การผ่าตัดตัดอัณฑะ
รวมถึงการให้ภูมิคุ้มกันบำบัด ในปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่นิยมอยู่ 2 วิธี คือ
1.การผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากออกมาทั้งหมดผ่านกล้อง
2.การผ่าตัดต่อมลูกหมากออกทั้งหมดโดยใช้แขนกลหุ่นยนต์ที่ควบคุมโดยศัลยแพทย์ ซึ่งมีความแม่นยำในการเก็บเส้นประสาทที่ช่วยในเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ดีมากยิ่งขึ้น