งานวิจัยในอดีต-ปัจจุบัน ย้ำดื่ม ‘น้ำหวาน’ เพิ่มความเสี่ยง ‘มะเร็ง’

เครื่องดื่มรสหวานที่ให้ความสดชื่น เป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ "น้ำตาล" โดยองค์กรอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคน้ำตาลในปริมาณที่จำกัด 4-6 ช้อนชา/วัน ในกลุ่มคนวัยทำงานทั่วไป และ 6-8 ช้อนชา/วัน ในกลุ่มคนที่ต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ

แต่ข้อมูลจากการสำรวจกลับพบว่า “คนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยสูงสุดวันละ 20 ช้อนชา” ทำให้สถิติผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอายุของผู้ป่วยลดน้อยลงเรื่อยๆ โดยสถิตินี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนยังไม่รู้โทษของความหวานมากพอ ทั้งที่ความจริงแล้วขนมหลายชนิด สามารถทำร้ายสุขภาพได้มากกว่าที่ใครหลายคนรู้

พฤติกรรม "เสพติด" ความหวาน

การกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานเป็นประจำ สมองจะหลั่งสารที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน ทำให้เรารู้สึกมีความสุข รวมถึงสั่งการให้ร่างกายมีความต้องการน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นติดอยู่ในวงจรความหวาน ทำให้รู้สึกเหมือนขาดน้ำตาลไม่ได้ และกลายเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ในที่สุด

รสชาติหวานในอาหารและเครื่องดื่ม อาจให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่กินเข้าไป แต่เมื่อไหร่ที่บริโภคจนเกินพอดี ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิตในอนาคต

นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศส เผยผลวิจัยดื่มน้ำหวานเพิ่มความเสี่ยง "มะเร็ง"

ผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซอร์บอน ปารีส ของฝรั่งเศส ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์บีเอ็มเจ (ปี 2562) ซึ่งสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 100,000 คน ในช่วง 5 ปี ระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่า 5% ซึ่งรวมถึงน้ำอัดลม มิลค์เชค เครื่องดื่มชูกำลัง ชาและกาแฟ หรือแม้แต่น้ำผลไม้ที่ปราศจากน้ำตาล อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้

ผลการศึกษาสรุปว่า การดื่มเครื่องดื่มรสหวานในปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตรต่อวัน หรือประมาณ 2 กระป๋องต่อสัปดาห์ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งทั่วๆ ไปได้สูงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม 22 เปอร์เซ็นต์

และสำหรับกลุ่มตัวอย่างทุกๆ 1,000 คน จะพบผู้ป่วยโรคมะเร็ง 22 คน ดังนั้น หากทั้งหมดดื่มน้ำหวานเกินกว่า 100 มิลลิเมตร จะส่งผลทำให้มีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเพิ่มอีก 4 คน กลายเป็น 26 คนต่อกลุ่มตัวอย่างทุก ๆ 1,000 คน

สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง 2,193 คนที่พบระหว่างการศึกษาวิจัย ในจำนวนนี้เป็นโรคมะเร็งเต้านม 693 คน เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก 291 คน และเป็นโรคมะเร็งลำไส้อีก 166 คน

ดื่มเครื่องดื่มรสหวานวันละแก้ว อาจเพิ่มความเสี่ยง "โรคมะเร็งตับ"

ในการประชุมประจำปีของสมาคมโภชนาการสหรัฐครั้งล่าสุด ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ในเดือน มิ.ย. (ปี 2565) ได้นำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลจนมีรสหวานจัด เช่น น้ำอัดลม โดยมีข้อมูลบ่งชี้ว่า การดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ แม้เพียงวันละแก้ว ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็งตับได้

กลุ่มนักวิจัยจากหลายสถาบันร่วมกันศึกษาข้อมูลของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจำนวน 90,504 คน อายุระหว่าง 50-79 ปี และมีการติดตามข้อมูลกันมากว่า 19 ปี พวกเขาต้องการมองหารูปแบบหรือความเกี่ยวโยงกันระหว่างการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมจำนวนมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ กับความเสี่ยงต่อ “โรคมะเร็งตับ”

พวกเขาพบว่า กลุ่มผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มหวานๆ อย่างน้อยวันละครั้ง มีโอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งตับมากกว่ากลุ่มผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มรสหวานเดือนละ 2-3 ครั้ง ถึง 73% โดยผู้หญิงที่ดื่มน้ำหวานวันละครั้ง มีความเสี่ยงต่อโรคเพิ่มขึ้น 78% 

ก่อนหน้ากรณีศึกษานี้ มีหลักฐานแสดงว่า นิสัยการดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นที่ส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยง ขณะที่การดื่มกาแฟจะลดความเสี่ยง

ผลการวิจัยชี้ว่า ถ้าลดการดื่มนำ้หวานลงอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ แทนน้ำหวาน หรือเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล เช่น น้ำเปล่า กาแฟ หรือชาที่ไม่ใส่น้ำตาลเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคได้

เครื่องดื่มที่มีรสหวานจัดเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับได้ โดยเป็นผลข้างเคียงการบริโภคน้ำตาล หากเรากินน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้อินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย ทำงานผิดปกติ นอกจากนี้ยังทำให้น้ำหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไขมันพอกตับ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เร่งเร้าให้เกิดโรคมะเร็งได้ง่ายขึ้น

เปิดผลศึกษา หญิงวัยหมดประจำเดือน ชอบดื่มน้ำหวาน-น้ำอัดลม เสี่ยงมะเร็งตับ 2 เท่า!!

ล่าสุด (วันที่ 10 ส.ค.2566) ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ manopsi ความว่า ...ข่าวไม่ดีสำหรับคนที่ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มผสมน้ำตาล โดยเฉพาะผู้หญิงนะครับ

การศึกษาตีพิมพ์ใน JAMA ล่าสุดเก็บข้อมูลผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนกว่า 1 แสนคน พบว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มกลุ่มนี้เป็นประจำ ดื่มทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ เกือบ 2 เท่านะครับ...

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยังคงต้องเดินหน้าเพื่อทำความเข้าใจความเกี่ยวโยงระหว่างเครื่องดื่มที่มีรสหวานกับโรคมะเร็งตับให้มากขึ้น ซึ่งข้อจำกัดของการวิจัยครั้งนี้คือเป็นข้อมูลจากการสังเกต และไม่ได้บ่งชี้โดยตรงว่าการดื่มเครื่องดื่มหวานๆ จะทำให้เกิดมะเร็งอย่างแน่นอน อีกทั้งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะมีความเกี่ยวโยงในลักษณะนี้กับกลุ่มประชากรประเภทอื่นหรือไม่ เช่น กลุ่มผู้ชายหรือกลุ่มผู้หญิงที่อายุยังน้อย