วลีติดปาก “สวยด้วยแพทย์” หรือ “การทำศัลยกรรม” ศิลปะแห่งความงามที่น่าหลงใหล กลายเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจที่ได้รับการยอมรับในทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่ผู้หญิง สำหรับการศัลยกรรมที่คนตัดสินใจทำเป็นสิ่งแรกบนใบหน้าคือ “การศัลยกรรมจมูก” ซึ่งทำได้โดยการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยก่อนเข้ารับการศัลยกรรมจมูกต้องศึกษาข้อมูลหลายอย่างเพื่อเตรียมตัวให้เหมาะสมสู่การศัลยกรรมบนพื้นฐานของความปลอดภัย
วิธีการศัลยกรรมจมูก
ข้อมูลจาก ผศ.นพ.เฉลิมพงษ์ ฉัตรดอกไม้ไพร ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุการศัลยกรรมจมูกแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่ การใช้เนื้อเยื่อตัวเอง และการใช้วัสดุภายนอก สำหรับการใช้เนื้อเยื่อตัวเองที่ใช้ในการเสริมจมูก เช่น กระดูกซี่โครง ไขมัน กระดูกอ่อนหลังหู เป็นต้น ส่วนการใช้วัสดุภายนอกคือการใช้ "ซิลิโคน" ซึ่งจะได้รับความนิยมมากกว่าการใช้เนื้อเยื่อ เนื่องจากการใช้ซิลิโคนมักได้รูปร่างที่ต้องการมากกว่า โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือซิลิโคนแบบแท่ง และซิลิโคนแบบบล๊อก โดยซิลิโคนที่ถูกนำมาใช้ในการศัลยกรรมจมูกนั้นจะต้องเป็นซิลิโคนเฉพาะที่มีเกรดทางการแพทย์
เรื่องที่ต้องศึกษาก่อนทำศัลยกรรมจมูก
ก่อนทำศัลยกรรมจมูกสิ่งที่จะต้องศึกษา คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เช่น แพทย์ที่จะทำ สถานที่ที่จะเข้ารับบริการ วิธีการเสริม การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด การดูแลหลังผ่าตัด เป็นต้น และควรใช้วิจารณญาณในการแยกแยะระหว่างข้อมูลจริงและข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อ
ซิลิโคนเสริมจมูกทำมาจากอะไร?
ซิลิโคนจมูก คือวัสดุที่ผลิตมาจากพลาสติกสังเคราะห์ สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรง และใส่เข้าไปเสริมให้จมูกโด่งขึ้นโดยไม่เป็นอันตราย ซิลิโคนจมูกความจริงแล้วอยู่ได้นานหลายปี หรือตลอดชีวิต หากใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง สะอาด ใช้วัสดุที่ปลอดภัย แต่หลายครั้งก็จะเห็นข่าวจมูกเบี้ยว เอียง อักเสบ หรือต้องแก้จมูกหลายครั้ง ดังนั้น สิ่งสำคัญในการเสริมจมูกที่คนไข้ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัย ต้องรู้จักเลือกซิลิโคนจมูก แหล่งผลิต ที่มา ลักษณะและรูปแบบ
ซิลิโคนเสริมจมูกอันตรายไหม?
ซิลิโคนที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมจมูกที่ดีที่สุด ควรเป็นเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกาย Implant grade มีความบริสุทธิ์สูง สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต ซิลิโคนประเภทนี้นอกจากนำมาทำซิลิโคนจมูก ยังถูกนำไปผลิตซิลิโคนหน้าอก ลิ้นหัวใจเทียม ฯลฯ สามารถอยู่ในร่างกายได้โดยไม่เกิดการต่อต้าน และผ่านการทดสอบสารก่อมะเร็ง รวมถึงค่าความเป็นพิษสะสมในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนเกรดอื่นๆ เช่น Medical grade มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า Implant grade สามารถใช้ในการเสริมจมูกได้ แต่ไม่มีการทดสอบเกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง และค่าความเป็นพิษสะสม รวมถึงซิลิโคน Medical grade บางชนิดที่ไม่ได้ถูกผลิตเพื่อให้อยู่ในร่างกายเกิน 30 วัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรศึกษาเรื่องซิลิโคนจมูกแต่ละประเภท เพื่อความมั่นใจว่าเป็นซิลิโคนที่ปลอดภัย ทั้งนี้ การจะบอกว่าเสริมซิลิโคนจมูกอันตรายไหม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเดียว การใช้ซิลิโคนจมูก Implant grade อาจรับรองได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับเทคนิค ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดร่วมด้วย
ซิลิโคนจมูกมีกี่แบบ?
ซิลิโคนจมูกสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ
1 ซิลิโคนจมูกสำเร็จรูป สะดวกต่อการใช้งาน ถูกทำให้เป็นรูปทรงมาแล้ว แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน แพทย์มีการเหลาปรับเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละคน มีโอกาสเบี้ยวเอียงน้อย
2 ซิลิโคนจมูกแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง แพทย์ต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง เพราะจะมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ข้อดีคือจะได้ทรงที่เหมาะกับใบหน้าแต่ละคน แยกย่อยได้อีกตามความอ่อนแข็ง คือ แข็ง (Hard) แข็งปานกลาง (Medium) นุ่ม (Soft) และนุ่มมาก (Ultra Soft)
ข้อแตกต่างของซิลิโคนจมูกแต่ละแบบ
ซิลิโคนแบบแข็ง สามารถคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกหนาเพื่อป้องกันการทะลุ หมอจึงนิยมเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง (Medium) เพื่อทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
ซิลิโคนแบบนิ่ม เมื่อเสริมจมูกแล้วจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบแข็ง และเหมาะกับคนที่เนื้อจมูกบาง เนื้อน้อย แต่ถ้าใช้ซิลิโคนแบบนุ่มมาก อาจทำให้เนื้อยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
นอกจากนี้ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้น เทคนิคใหม่ที่ได้รับความนิยมในการเสริมจมูกปัจจุบันคือการใช้กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเสริมจมูกเป็นหลักแทนซิลิโคน หรือนำมาใช้รองปลายจมูกที่เสริมด้วยซิลิโคนเพื่อป้องกันปัญหาจมูกทะลุได้
วัสดุซิลิโคนที่นิยมนำมาใช้เสริมจมูกในปัจจุบัน ได้แก่
ซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone) ซิลิโคนแท่งมาตรฐานพิเศษ คุณภาพดี มีความปลอดภัยสูง มีความบริสุทธิ์ 100% (Medical Grade Silicone) เนื้อซิลิโคนเนียนละเอียด มีสีขาว มีความนุ่ม
ซิลิโคนเกาหลี (Korea Silicone) ซิลิโคนสำเร็จรูปมาตรฐานพิเศษ โคนจมูกและปลายจมูกมีความนิ่มมาก มีความยืดหยุ่นสูง มีสีเหลือง สีน้ำตาลแดง มีความนุ่มมาก
ซิลิโคนญี่ปุ่น (Japan Silicone) ซิลิโคนแท่งมาตรฐานธรรมดา วัตถุดิบบางอย่างนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทำการผลิตในประเทศไทย มีสีเหลือง และมีความแข็งปานกลาง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้ซิลิโคนบราซิล (Brazil Silicone) ซิลิโคนจีน (China Silicone) ซิลิโคนไต้หวัน (Thaiwan Silicone) รวมถึงซิลิโคนไทย (Thai Silicone) นำมาใช้เสริมจมูกด้วย
อันตรายของการศัลยกรรมจมูก
สิ่งที่อันตรายที่สุดของการศัลยกรรมจมูกคือ การเสริมจมูกแบบฉีด เป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์และผิดกฎหมาย เมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถรักษาหรือเอาออกได้ เนื่องจากมีการแทรกซึมและกระจายอยู่ทั่ว โดยผลข้างเคียงของการเสริมจมูกแบบฉีดที่พบบ่อยคืออาการบวมแดงที่เกิดจากการอักเสบ และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
การดูแลหลังผ่าตัด
ข้อควรระวัง
หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการชน หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น บอล บาสเก็ตบอล ฯลฯ หลังจาก 1 เดือนจมูกจะเข้าที่แล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
การเสริมจมูกที่ปลอดภัยจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ไม่ควรเสริมขนาดที่ใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้เกิดการแทรกซ้อนได้ เช่น จมูกเบี้ยวหรือซิลิโคนทะลุ ควรเลือกขนาดแท่งที่พอดีกับใบหน้าและจมูกเดิม เพื่อลดความเสี่ยง ที่สำคัญควรปฏิบัติตนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ที่มา : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล / โรงพยาบาลยันฮี / V Square Clinic