svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

03 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ส่องเทรนด์ “อาหารเพื่อสุขภาพ” ที่ต้องจับตามองและคาดว่าจะมาแรงในปี 2023 จากข้อมูลสำรวจเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลก

ถึงเวลาแล้วที่การทานอาหารจะทำให้เรามีความสุข สำหรับสายเฮลตี้ที่ติดตามเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพในทุกๆ ปี ต้องไม่พลาดตามกระแสของปี 2023 ปีที่มีการนิยามคำว่า “สุขภาพดี” ใหม่ หลังบรรดาคนดังรวมถึง โจนาห์ ฮิลล์ ออกมาบอกว่า

สุขภาพดีเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่จำเป็นจะต้องมีรูปร่างที่เหมือนกันทุกคน เพราะรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้บ่งบอกว่าใครมีสุขภาพดี

และเมื่อคำว่า “สุขภาพดี” กลายเป็นเรื่องเฉพาะตัวมากขึ้น บวกกับกระแสโซเชียลกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค การสำรวจข้อมูลเชิงลึกของ Eatting Well เว็บไซต์วารสารสุขภาพที่ได้รับรางวัลเกี่ยวกับอาหาร โภชนาการ และความยั่งยืนมากว่า 30 ปี ได้วิเคราะห์และคาดการณ์ออกมาว่าเทรด์อาหารเพื่อสุขภาพที่ทั่วโลกจับตามองและมาแรงในปี 2023 ได้แก่

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

1 Alternative Coffee หรือกาแฟทางเลือก

ต้องบอกว่าคนรักกาแฟมีมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด จากการสำรวจของคนที่เข้ามาค้นในเว็บไซต์ Eatting Well พบว่า ในปีที่ผ่านมาผู้คนให้ความสนใจกาแฟเพิ่มมากขึ้นถึง 36% ไม่เพียงเท่านั้นตลาดกาแฟทางเลือกยังเติบโตขึ้นด้วย ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น ทำให้เห็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกมากมายสำหรับคนชอบกินกาแฟ แต่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือติดคาเฟอีน เช่น Molecular Coffee กาแฟโมเลกูลาร์ที่ไม่ได้ทำมาจากเมล็ดกาแฟ แต่ทำมาจากสารต่างๆ ที่พบได้ในกาแฟ โดยทำให้มีกลิ่นและคาเฟอีนคล้ายกัน แต่ลดการทำลายพื้นที่ป่า หรือแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกกาแฟลดลงจากภาวะโลกร้อน

Chicory Coffee กาแฟทดแทนจากต้นชิโครี ไร้คาเฟอีน แต่มีความโดดเด่นตรงที่มีสาร “อินนูลิน” ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เมื่อปล่อยช้าๆ เข้าสู่กระแสเลือดจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลภายในร่างกาย และช่วยลดอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย “Intibine” สารทำให้มีรสชาติขม ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นผลิตน้ำดี ส่งเสริมการย่อยและบรรเทาอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร รวมถึงยังมีกรดไขมันจำเป็นวิตามินบีและแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยในเรื่องการนอนหลับและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าความเครียดได้ด้วย รวมถึง Mushroom Coffee กาแฟที่มีส่วนผสมจากเห็ด ซึ่งลดความเป็นกรดและคาเฟอีนให้น้อยลงกว่าปกติ  นอกจากนั้น ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี วิตามินดี ซีลีเนียม ทองแดง โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยต้านการอักเสบและต้านสารก่อมะเร็ง

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

2 Adaptogens เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากเห็ดและสมุนไพร

ปีนี้เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรง คงหนีไม่พ้น “Adaptogens” หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมหลักจากเห็ดและสมุนไพรนานาชนิด ที่อุดมไปด้วยสารเพื่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นใบกะเพรา โสมอินเดีย และเห็ดหลินจือ มีส่วนช่วยปรับสมดุลร่างกาย ลดความเครียด ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเครื่องดื่มนี้มีขายในทุกรูปแบบทั้งในรูปแบบขวด ชากระป๋องแบบมีฟอง ไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ ด้วยคุณประโยชน์ที่มีมากมายและรูปแบบที่มีให้เลือกหลากหลาย จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มีผู้คนค้นหาจนติดกูเกิลเทรนด์

3 alcohol 0% เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์

นอกจากเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ 0% แล้ว เรายังได้เห็นโซจูไร้แอลกอฮอล์ หรือคราฟต์ค็อกเทลไร้แอลกอฮอล์กันมากขึ้น และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็น Gin หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ในรูปแบบแอลกอฮอล์ 0% วางจำหน่ายตามมาติดๆ ในปี 2023 เรียกได้ว่าน่าจะเป็นเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตามองอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งในปีที่ผ่านมามีคนค้นหาบนเว็บ Eatting Well เพิ่มขึ้นถึง 220% และมียอดคนเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับ “ม็อกเทล” และ “ไม่มีแอลกอฮอล์” เพิ่มขึ้น 118% และ 365% ตามลำดับ

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

4 Copycat Recipes เมนูสูตรเลียนแบบร้านดัง

เทรนด์นี้เริ่มมีให้เห็นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คนใช้เวลาอยู่บ้าน จึงเกิดการแกะสูตรเลียนแบบเมนูร้านดัง ซึ่งความเฮลตี้ก็อยู่ตรงนี้นี่แหละ เพราะเมื่อเราทำอาหารเอง เครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ ก็มักเลือกสรรของดี แต่ที่น่าสนใจคือแม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะผ่อนคลายลง แต่แนวโน้มการทำอาหารกินเองที่บ้านกลับไม่ได้ลดลง โดยผู้คนให้ความสนใจในสูตรอาหารเลียนแบบเพิ่มขึ้นถึง 167% และใน Pinterest พบการค้นหาคำว่า “Starbucks eggbites copycat recipe” เพิ่มขึ้น 8,000% ขณะเดียวกันก็ค้นหาคำว่า “Taco Bell Mexican Pizza copycat recipe” เพิ่มขึ้นถึง 100% นอกจากนี้ ในกูเกิลเทรนด์ ยังแสดงแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันคือ มีสูตรอาหารเฉพาะเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งๆ ที่พวกเขาสามารถออกไปทานอาหารข้างนอกบ้านได้ แต่ความนิยมการทำอาหารเลียนแบบที่บ้านกลับไม่ได้ลดลง จากการวิเคราะห์ก็พบว่า ด้วยปริมาณโซเดียมในสูตรเลียนแบบมีน้อยกว่า ใช้ส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีก รวมถึงปัญหาภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ทำให้อาหารนอกบ้านมีราคาแพงขึ้น จึงทำให้การทำอาหารสูตรเลียนแบบที่บ้านได้รับความนิยมมากขึ้นนั่นเอง

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

5 Yuzu ยูสุ

ผลไม้ตระกูลส้มเปรี้ยวจากเกาหลีและจีน เป็นกระแสในไทยมาสองสามปี แต่กำลังเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา จนติดกูเกิลเทรนด์ในปีที่ผ่านมา โดยในสหรัฐอเมริกามีผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับยูสุเพิ่มขึ้นถึง 80% แม้ว่าผลสดๆ ของส้มยูสุจะอาจหาซื้อได้ยาก แต่กลับพบเครื่องดื่มและอาหารที่มีส่วนผสมจากผลยูสุเพิ่มขึ้นทั้งหน้าร้านและทางออนไลน์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยูสุยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เสริมความงามของ J-beauty และ K-beauty เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ

6 Cascara ชารักษ์โลก

แม้ในการผลิตกาแฟจะสร้างขยะจำนวนมาก แต่ Cascara ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากเปลือกกาแฟ ที่สามารถนำมาใช้ใหม่เพื่อทำเป็นเครื่องดื่มร้อนคล้ายกับชาสมุนไพรที่มีกลิ่นของมะขามและลูกเกดได้ และแม้ว่าชา Cascara จะเป็นกรรมวิธีการผลิตในประเทศผู้ผลิตกาแฟมาช้านาน แต่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Starbucks ได้นำไปเป็นหนึ่งในเมนูเครื่องดื่ม  ชื่อว่า “Cascara Latte” และ “Cascara Fizz” จนตอนนี้คำว่า “Cascara latte calories” เป็นคำที่ได้รับความนิยมอย่างมากติดกูเกิลเทรนด์ในปีนี้ ขณะที่ "Cascara fizz" มีคนค้นหาเพิ่มขึ้น 150%

7 Sea Plants พืชทะเล

พืชทะเลที่กินได้กำลังกลายเป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยม โดย Whole Foods คาดการณ์ว่าสาหร่ายทะเลจะโตมากในปีที่ผ่านมา และในปี 2023 เราอาจจะได้พบผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายทะเลมากขึ้นบนชั้นวางของ เช่น ขนมคบเคี้ยวสาหร่ายเคลป์ หรือบะหสี่สำเร็จรูปสาหร่ายเคลป์ เป็นต้น สำหรับสาหร่ายเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะสาหร่ายโดยเฉพาะเคลป์สามารถดูดซับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ และไม่ต้องการน้ำจืดหรือสารอาหารเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน Pinterest ยังคาดการณ์ไว้ด้วยว่า สุดยอดอาหาร (Superfoods) ที่จะมาแรงในปีนี้จะเป็นอาหารที่มาจากทะเล โดยพวกเขาให้ความสนใจค้นหาสูตรอาหารว่างจากสาหร่ายเพิ่ม 245% และสูตรโนริสาหร่าย 60% ส่วนในกูเกิลเทรนด์ระบุว่า “Salicornia salt” ซึ่งเป็นเกลือที่ได้มาจากพืชทะเลที่รู้จักกันว่า “แซมไฟร์” หรือ “ถั่วทะเล” ที่เติบโตตามธรรมชาติ มีโซเดียมน้อยกว่าเกลือทั่วไปที่เราใช้ปรุงอาหารกัน กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในปัจจุบัน

8 Sustainable Seafood อาหารทะเลยั่งยืน

เนื้อหาเกี่ยวกับปลาและอาหารทะเลอื่นๆ ยังคงได้รับนิยมอยู่เสมอ แต่ในปีที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ Eatting Well มีคนค้นหา “สูตรปลาแซลมอน” เพิ่มขึ้น 28% ขณะที่ “กุ้งล็อบเตอร์” ก็เพิ่มขึ้น 29% และใน Pinterest มีผู้ค้นหา “ข้าวปลาแซลมอน” เพิ่มขึ้นมากถึง 245% อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมได้เข้ามามีบทบาทต่อการเลือกซื้ออาหารของคนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่ในตอนนี้จะหลีกเลี่ยงการสนับสนุนวงจรการทำประมงที่ไม่ยั่งยืน คือเลือกซื้ออาหารทะเลที่โตเต็มวัย ไม่ซื้อสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์และอาหารทะเลที่มาจากการทำประมงแบบทำลายล้าง

เปิดโผเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023

9. Ginseng โสม

พืชที่ถูกใช้ในการแพทย์แผนจีนและชนพื้นเมืองอเมริกันมานานหลายศตวรรษ ก่อนจะนำไปผลิตเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในการลดน้ำตาลในเลือดและช่วยลดการอักเสบ รวมถึงยังเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มชูกำลัง แม้ว่าโสมจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่พูดถึงกันมานาน แต่การค้นหากูเกิลเทรนด์เกี่ยวกับโสมยังคงเพิ่มขึ้น 8% ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยกันว่าโสมจะปลอดภัยสำหรับการบริโภคในผู้ใหญ่หรือไม่ และมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและการปล่อยอินซูลินจริงไหม จากการศึกษาข้อมูล แนะนำว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือคนที่ทานยาลดน้ำตาลในเลือด ควรปรึกษาเพทย์ก่อนที่จะลองอาหารเสริมหรือสารดัดแปลงใหม่ๆ เช่น โสมจะดีที่สุด

10. มะเขือเทศสีม่วง และอินทผลัม

มะเขือเทศที่ดัดแปลงพันธุกรรมชนิดใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณ “แอนโธไซยานิน” และให้มีสีม่วงที่โดดเด่น เป็นสารสกัดกั้นอนุมูลอิสระที่ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ได้ การทานแอนโธไซยานินจึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจและเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ในอดีตนักโภชนาการอาหารมักจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารดัดแปลงพันธุกรรม แต่ผลิตภัณฑ์นี้ถูกดัดแปลงขึ้นมาเพื่อดึงดูดคนรักสุขภาพ แต่พวกเขาจะเลือกทานหรือไม่? ไม่สามารถตอบได้ชัดเจน แต่ต้องบอกว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากและตอบโจทย์คำแนะนำทางสุขภาพที่อยากให้ทานอาหารตามสีรุ้ง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เพราะแบบนี้มะเขือเทศม่วงก็เลยติดเทรนด์ค้นหายอดนิยมขึ้นมา ส่วนอินทผลัม เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี และในปี 2023 อินทผลัมก็คงมาแรงจากการเป็นส่วนหนึ่งในหลากหลายเมนู เช่น การนำเมล็ดอินทผลัมมาสกัดเป็นกาแฟทางเลือก หรืออินทผลัมในเมนูของหวานอย่างเค้ก ไอศกรีม ช็อกโกแลต และขนมต่างๆ โดยอินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหาร แถมยังมีรสชาติหวานจากน้ำตาลธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พร้อมด้วยสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว

logoline