วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2568) ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ ฝุ่น PM 2.5 กระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ด้านแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมด้วย นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีและโฆษกกรมการแพทย์ แถลงแนวทางการดูแลสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5
ดร.นพ.วรตม์ กล่าวว่า
ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษวันนี้ หลายพื้นที่มีเกณฑ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ดีขึ้น โดยอยู่ในระดับ
ดีมาก (สีฟ้า) 11 จังหวัด ได้แก่ นครพนม สุรินทร์ บึงกาฬ ปัตตานี อุดรธานี พัทลุง ตรัง ร้อยเอ็ด อุบลฯ สกลนคร และศรีสะเกษ
ระดับดี (สีเขียว) 22 จังหวัด ระดับปานกลาง (สีเหลือง) 27 จังหวัด
และจังหวัดที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานรวม ระดับสีส้ม (37.6 - 75 มคก./ลบ.ม) เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 26 จังหวัด
พร้อมขอแนะนำประชาชนหากออกจากที่พัก ให้เลือกใช้หน้ากากอนามัยสำหรับป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่เหมาะสมกับตนเองและสถานการณ์ในแต่ละวัน สำหรับหน้ากากอนามัยชนิด N95 แม้จะสามารถกรองฝุ่นได้ 95% แต่ไม่แนะนำให้ใช้ระหว่างออกกำลังกายทุกประเภท เพราะจะทำให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานหนัก
นพ.สกานต์ กล่าวว่า
ผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 มากกว่าวัยหนุ่มสาวเนื่องด้วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และมีโรคร่วมมาก
จากข้อมูลในปี 2567 ที่ผ่านมา มีเด็กและผู้สูงอายุได้รับผลกระทบจาก PM 2.5 จำนวนมากโดยพบสูงสุด คือ เด็กอายุ 5-9 ปี 109,412 คน อายุ 0-4 ปี 98,193 คน ผู้สูงอายุ พบมากสุด อายุ 65-69 ปี 73,682 คน รองลงมา อายุ 70-74 ปี 71,742 คน อายุ 60-64 ปี 70,558 คน
PM 2.5 สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะหรือส่วนต่างๆ ของผู้สูงอายุไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มความเสี่ยงต่อตาอักเสบ เกิดอาการระคายเคืองตา หลอดเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจ หลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม โรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้กำเริบ เลือดกำเดาไหล หอบหืด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด และผื่นแพ้คัน ระคายเคืองผิวหนัง
ทั้งนี้ ปัจจัยความรุนแรง ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพนั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณของฝุ่นละออง ช่วงเวลาและระยะเวลาที่สัมผัสชนิดกิจกรรมที่ทำและลักษณะของแต่ละบุคคล
ข้อแนะนำในการดูแลผู้สูงอายุจากฝุ่น PM 2.5 ดังนี้
ติดตามสถานการณ์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
แจ้งเตือนภัยผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM 2.5
สังเกตอาการที่เกี่ยวข้องกับ PM 2.5 รวมทั้งสุขภาพของผู้สูงอายุและสื่อสารให้คนในครอบครัวทราบ
ป้องกันตนเองจาก PM 2.5 ตลอดจนแนะนำการจัดสภาพแวดล้อมที่สะอาดปลอดฝุ่น
การทำบ้านปลอดฝุ่นสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ปิดประตู หน้าต่าง หรือช่องรูต่างๆ ให้มิดชิด ทำความสะอาดบ้านทุกวันโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหรือถู แทนการใช้ไม้กวาดหรือไม้ปัดฝุ่น ไม่ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นภายในห้อง เช่น จุดธูป จุดเทียน การเผา เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อากาศภายในห้องเกิดการหมุนเวียน และพิจารณาเลือกใช้เครื่องกรองอากาศอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ หากพบว่าอากาศมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานเป็นสีแดง แนะนำผู้สูงอายุให้งดการออกนอกบ้าน หรือหากจำเป็น ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น เตรียมยาประจำตัว ยาสามัญประจำบ้าน ไว้ใกล้ตัว และสังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ แนะนำให้พาผู้สูงอายุพบแพทย์ทันที