svasdssvasds
เนชั่นทีวี

รักษ์โลก

3 ทีมแชมป์รักษ์โลก สโมสรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

28 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ส่อง 3 ทีมฟุตบอลที่ไม่ได้มีดีแค่ชั้นเชิงการเล่น แต่ยังเป็นสโมสรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนคว้าแชมป์รักษ์โลกไปครอง

หงส์แดง ลิเวอร์พูล : แชมป์สโมสรแห่งความยั่งยืน

3 ทีมแชมป์รักษ์โลก สโมสรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เริ่มที่ทีมจากลีกระดับโลกอย่างพรีเมียร์ลีก ที่มี "ลิเวอร์พูล" เป็นสโมสรฟุตบอลแรกที่ได้การรับรองว่าเป็น "สโมสรแห่งความยั่งยืน" เพื่อยกย่องแนวทางในการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการรับรองนี้มาจากสถาบันมาตรฐานบริชติช (British Standards Institute, BSI) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรเพื่อผลักดันมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมภาคธุรกิจ การลดของเสีย การปกป้องผู้บริโภค รวมไปถึงมาตรฐานด้านความยั่งยืน

โดยการรับรองมาตรฐานของ BSI นี้มอบให้แก่ผู้ที่พยายามอย่างมากในการลดผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเศรษฐกิจในท้องถิ่น ในขณะเดียวกันก็เพิ่มผลกระทบด้านบวกให้สูงที่สุดทั้ง 3 ด้านนี้เช่นกัน ซึ่งทางลิเวอร์พูลเองได้เริ่มโครงการเพื่อความยั่งยืนที่มีชื่อว่า เส้นทางสีแดง (The Red Way) ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2021 เพื่อผลักดันให้มีการดำเนินงานต่างๆ ของสโมสรมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรรมในวันแข่งขันของลิเวอร์พูล ตลอดจนขั้นตอนต่างๆ มากมายเพื่อให้มีการปล่อยคาร์บอนให้น้อยที่สุด รวมไปถึงการใช้เชื้อเพลิงในรถโดยสารของทีมที่ปัจจุบันสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึงร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลทั่วไป

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูลมีเป้าหมายที่จะให้การดำเนินการด้านกีฬาในองค์กรปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2025 อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่จะให้ทุกกิจกรรมของสโมสรใช้พลังงานจากแหล่งที่มีคาร์บอนต่ำและพลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการปฏิบัติงานจริงทั้งหมดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2030

Forest Green Rovers (FGR) สโมสรฟุตบอลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก

3 ทีมแชมป์รักษ์โลก สโมสรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ด้านดิวิชั่นเล็กลงมาอย่าง EFL League One มี Forest Green Rovers (FGR) ทีมฟุตบอลเก่าแก่อายุกว่า 130 ปี ที่ได้รับการรับรองให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ รวมถึงสโมสรฟุตบอลที่เป็นกลางทางคาร์บอนแห่งแรกของโลก โดยสหประชาชาติ

สำหรับทีม Forest Green Rovers ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเกือบทุกมิติ โดยเริ่มต้นภารกิจมุ่งสู่การเป็นทีมฟุตบอลที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ (Carbon Neutrality) แห่งแรกของโลกเมื่อปี 2010 ซึ่งต้องยกเครดิตทั้งหมดให้ Dale Vince ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานสโมสร ที่นำแนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสโมสรทั้งหมด ตั้งแต่ตัวสนามฟุตบอลที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ จากแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาและกังหันลมที่อยู่บนเนินเขาบริเวณใกล้เคียง

ทุกพื้นที่ในสนามยังปลอดสารพิษ ซึ่งสนามฟุตบอลทำจาก ‘หญ้าออร์แกนิก’ ทั้งหมด โดยใช้สาหร่ายในการดูแลสนามแทนปุ๋ยเคมี และไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลย ด้านเมนูอาหารก็เป็นวีแกนทั้งหมด และแน่นอนว่าเสื้อนักกีฬาต้องมาจากธรรมชาติด้วยเช่นกัน โดยผลิตมาจากกากกาแฟ นอกจากนี้ FGR ยังให้ความสำคัญเรื่องการเดินทางของนักกีฬาและผู้ชม โดยเลือกใช้รถโคชและมินิบัสไฟฟ้า รวมถึงบริการจุดชาร์จพาหนะพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) รอบสเตเดียมเพื่อทำให้การเดินทางของทุกคนมีความยั่งยืนมากขึ้น นอกเหยนือจากรางวัลการันตีแล้ว สิ่งที่ทีมฟุตบอลเล็กๆ จากเมือง Nailsworth ทีมนี้ทำ ยังสามารถส่งต่อแนวคิดเรื่อง ‘ความยั่งยืน’ ให้กับแฟนบอลและเป็นตัวอย่างที่ดีให้สโมสรอื่นได้เรียนรู้และนำแนวคิดมาปรับใช้ได้อีกด้วย

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : คว้าเหรียญจากขยะอิเล็กทรอนิกส์เหรียญแรกของวงการฟุตบอลไทย

3 ทีมแชมป์รักษ์โลก สโมสรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มาที่สโมสรไทยลีกในบ้านเรา ที่มี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของฉายา "ปราสาทสายฟ้า" ทีมที่คว้ารางวัล FOOTBALL CLUB E-WASTE CHALLENGE AWARD หลังจากสามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ได้มากที่สุดจากกิจกรรมแฟนบอลไทยไร้ E-Waste โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานประกาศเกียรติคุณให้กับบุคคลผู้สร้างผลงานดีเด่นในวงการฟุตบอลไทยด้านต่างๆ

ซึ่งความพิเศษของรางวัลนี้ คือการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากแฟนบอลไปทำเป็นเหรียญรางวัลเกียรติยศที่ผลิตขึ้นจากขยะอิเล็กทรอนิกส์เหรียญแรกของไทย ซึ่งสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่สามารถรวมรวบขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากสุด  นับเป็นก้าวที่สำคัญสู่การต่อยอดแนวคิด “Green ไทยลีก” ให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในวงการฟุตบอลและไทยลีกต่อไป

 

logoline