
"ซูเปอร์มูน" เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกที่สุด ทำให้คนบนโลกสามารถเห็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่และสว่างกว่าปกติ
และเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม หลายประเทศในหลายภูมิภาคทั่วโลก รวมถึง ออสเตรเลีย อีกหลายชาติในเอเชีย รวมไปถึงตะวันออกกลาง ยุโรป และละตินอเมริกา ล้วนได้ชมความงามของ “ซูเปอร์มูน” ที่โดดเด่นกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน และปรากฏภาพดวงจันทร์ดวงโตเหนือสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คชื่อดังของโลกมากมาย เช่น โอเปราเฮาส์ในออสเตรเลีย, หอคอยกาลาตาที่ตุรกี, มัสยิดอัล-อักซอ ในย่านเมืองเก่าของนครเยรูซาเลม, วิหารโพไซดอนของกรีซ และมหาวิหารโคโลญที่เยอรมนี เป็นต้น
ในทางดาราศาสตร์เรียกปรากฎการณ์ที่ดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ของเดือนว่า “บลูมูน” ซึ่งองค์การบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ นาซา ระบุว่า บลูมูนเกิดชึ้นทุก 2 หรือ 3 ปี โดยเฉลี่ย แต่ปรากฎการณ์ “บลูมูน” ที่เป็น “ซูเปอร์มูน” ด้วย หรือ ที่เรียกว่า "ซูเปอร์บลูมูน" ยิ่งเกิดขึ้นได้ยาก และจะได้เห็นอีกครั้งในปี 2037 หรืออีก 13 ปี ข้างหน้า