กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียเรียกลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก เข้าพบในวันจันทร์เพื่อกล่าวโทษว่า สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ที่ยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองเซวาสโตโพลในแคว้นไครเมียเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 151 ราย
กระทรวงฯ ระบุด้วยว่า “การกระทำของสหรัฐฯ จะไม่ถูกปล่อยผ่านโดยไม่มีการตอบโต้” และรัสเซียจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาคมโลกได้รับทราบเกี่ยวกับอาชญากรรมล่าสุดนี้ และร่วมกันตอบโต้
สถานีโทรทัศน์ทางการรัสเซียแพร่ภาพความโกลาหลที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ในไครเมีย ขณะประชาชนวิ่งหนีหาที่กำบังจากเศษชิ้นส่วนระเบิดที่ร่วงลงมาจากฟ้า
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ขีปนาวุธที่กองทัพยูเครนใช้ยิงถล่มเมืองเซวาสโตโพลเป็นระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ยูเครน และอ้างด้วยว่า ขีปนาวุธของระบบนี้ล้วนตั้งโปรแกรมโดยผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ และนำวิถีด้วยดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดจากเศษชิ้นส่วนของระเบิดตกใส่ โดยขีปนาวุธทั้ง 5 ลูก ที่ถูกกองทัพรัสเซียยิงสกัดไว้ได้ ล้วนติดหัวรบระเบิดดาวกระจาย
สหรัฐฯ มอบ ATACMS ให้กับยูเครนมานานกว่า 1 ปีแล้ว ระบบดังกล่าวทำให้กองทัพยูเครนสามารถยิงทำลายเป้าหมายได้ไกลถึง 300 กม.
โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นในไครเมียเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนอย่างสิ้นเชิง และการที่สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ที่ทำให้พลเรือนรัสเซียเสียชีวิต จะต้องได้รับผลลัพธ์ ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น เมื่อถึงเวลา ก็จะได้รู้กัน เขาย้ำคำเตือนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่บอกเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า รัสเซียพร้อมติดอาวุธให้ศัตรูของชาติตะวันตก ที่จัดหาอาวุธให้กับยูเครน
ถ้อยแถลงของปูตินส่งสัญญาณพร้อมตอบโต้ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพยูเครนสามารถใช้อาวุธ ซึ่งได้รับจากสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายในรัสเซีย หรือฐานที่มั่นของทหารรัสเซีย ที่อยู่ใกล้แคว้นคาร์คีฟของยูเครนได้เพื่อป้องกันตัวเอง