
ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้นำจากทั่วโลก เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน, พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 แห่งอังกฤษ, นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เข้าร่วมพิธีรำลึก 80 ปี ของการยกพลขึ้นบกในวันดีเดย์ (D-Day) ที่จัดขึ้นในหลายจุดของเมืองนอร์มังดีของฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี (6 มิถุนายน) โดยเริ่มจากที่สุสานอังกฤษตั้งแต่ช่วงเช้า แต่รัสเซีย ซึ่งทำสงครามกับยูเครนตั้งแต่ปี 2565 ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม
นอกจากนี้ทหารผ่านศึกเกือบ 200 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอเมริกันหรือทหารอังกฤษ เข้าร่วมพิธีรำลึกตามชายหาดต่าง ๆ ที่ยังคงมีร่องรอยของการต่อสู้ในวันดีเดย์ ซึ่งเป็นวันยกพลขึ้นบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
ทหารของกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรจากสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ แคนาดา และฝรั่งเศสมากกว่า 150,000 นาย ยกพลขึ้นที่ชายหาดหลายแห่งของเมืองนอร์มังดีเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2487 เพื่อร่วมกันขับไล่กองกำลังนาซีเยอรมัน ที่ยึดครองดินแดนในยุโรป และมีทหารหลายพันนายเสียชีวิต
ประธานาธิบดี ไบเดน กล่าวสุนทรพจน์ที่สุสานอเมริกัน โดยเปรียบเทียบว่า การต่อสู้ของยูเครนเพื่อขับไล่การรุกรานของรัสเซียเหมือนกับการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในวันดีเดย์ และเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ระหว่างเผด็จการและเสรีภาพที่ยังไม่สิ้นสุด พร้อมกับให้คำมั่นว่า องค์การนาโต และแนวร่วมกว่า 50 ประเทศ จะยังยืนหยัดเคียงข้างยูเครน