เลือกตั้งอินเดีย "ประชาธิปไตย" ที่ไม่เหมือนใครในโลก

เพราะยาวนานถึง 2 เดือน และใช้ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่าน "เครื่องลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์" (Electronic Voting Machines) หรือ EVM แทนการใช้บัตรลงคะแนน หลังจากการเลือกตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ เผชิญปัญหาการทุจริตบัตรเลือกตั้ง เช่น บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ ทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาในการนับคะแนนหลังการเลือกตั้ง จากเดิมที่ใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในอินเดียมีจำนวนเกือบ 1,000 ล้านคน การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้การนับคะแนนรวดเร็วขึ้น

เมื่อปี 2562 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน อินเดียสามารถใช้เวลาในการนับคะแนนเสียงทั้งหมดภายใน 4 ชั่วโมง แม้จะมีพรรคการเมืองลงสู้ศึกเลือกตั้ง 450 พรรค มีผู้สมัคร สส.มากกว่า 8,300 คน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้นใช้เวลาทั้งสิ้น 39 วัน (วันที่ 11 เมษายน ถึง 19 พฤษภาคม) ส่วนปีนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน ถึง 1 มิถุนายน แต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 7 ระยะ ได้แก่

• ระยะที่ 1 วันที่ 19 เมษายน
• ระยะที่ 2 วันที่ 26 เมษายน
• ระยะที่ 3 วันที่ 7 พฤษภาคม
• ระยะที่ 4 วันที่ 13 พฤษภาคม
• ระยะที่ 5 วันที่ 20 พฤษภาคม
• ระยะที่ 6 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 
• ระยะที่ 7 ในวันที่ 1 มิถุนายน 

ที่น่าสนใจคือ ที่ต้องกำหนดการเลือกตั้งเป็นระยะก็เพื่อไล่เลียงไปแต่ละรัฐจนครบ แต่ก็มีบางรัฐอีกเช่นกันที่เลือกตั้งครบทั้ง 7 ระยะ ส่วนการประกาศการนับคะแนนจะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน และคาดว่าการนับคะแนนจะรวดเร็วอีกเช่นกัน โดยเพียงนำเครื่อง EVM มาเชื่อมต่อเข้าระบบ คะแนนก็จะถูกส่งไปรวบรวมที่ส่วนกลาง ส่งผลให้การนับคะแนนทำได้รวดเร็วกว่าการนับบัตรเลือกตั้งทีละใบ และในปีนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 970 ล้านคน 



สำหรับเครื่อง EVM พัฒนาโดยรัฐวิสาหกิจของอินเดีย เมื่อปี 2533 โดยเป็นเครื่องลงคะแนนระบบปิด ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ทำให้มีความน่าเชื่อถือ ยุติธรรมและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีราคาเพียงเครื่องละ 13,600 รูปี หรือราว 6,000 บาทเท่านั้น ทำให้ประหยัดงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งได้มาก และหลังลงคะแนนเสร็จจะมีสลิปออกมาเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ์ด้วย 



คาดว่าในปีนี้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพรรคภรติยะ ชนตะ (พะระติยะ ชะนะตะ) หรือ BJP ที่บริหารประเทศมานาน 10 ปี และในฐานะแกนนำ "พันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ" (National Democratic Alliance) หรือ  NDA ทำให้มีความได้เปรียบพรรคอื่น ๆ และแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้หลักคิดแบบชาตินิยมฮินดูมากจนเกินไป, ใช้อำนาจนิยม และทำให้แกนนำฝ่ายค้านถูกจับด้วยข้อหาพื้น ๆ คือ ทุจริต แต่ก็ต้องยอมรับว่าอินเดียในยุคของโมดีมีความก้าวหน้าอย่างยิ่ง ทำให้เชื่อว่าเขาและพรรค BJP จะชนะเลือกตั้งครั้งนี้แบบบลอยลำ