"คองคอร์ด" ตำนานเครื่องบินพาณิชย์เร็วเหนือเสียงปรากฏโฉม

"คองคอร์ด" (Concorde) ตำนานเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง ได้ปรากฏโฉมบนเรือขนส่งที่แล่นอยู่ในแม่น้ำ "อีสต์" ในแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก หลังเข้ารับการปรับปรุงนานหลายเดือน โดยเครื่องบินลำนี้เป็นของสายการบิน "บริติช แอร์เวย์ส" (British Airway) ที่ปลดระวางแล้ว และกำลังเดินทางกลับบ้านที่ "อินเทรอพิด มิวเซียม" ในนิวยอร์ก ซิตี ที่มันถูกเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ปี 2546 ตอนที่ถูกส่งเข้าไปที่เรือ 86 (Pier 86)  และทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงเป็นนิทรรศการหลักนับตั้งแต่ไปถึง และเปิดให้สาธารณชนเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเครื่องบิน ทั้งยังเป็นเครื่องบินคองคอร์ดของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส เพียงลำเดียวที่จัดแสดงในสหรัฐฯ 

แต่การจัดแสดงได้หยุดลงชั่วคราว เพื่อนำเครื่องบินไปปรับปรุงที่บรู้คลิน เนวี่ ยาร์ด เมื่อเดือนสิงหาคม ที่รวมทั้งการลอกเอาสีเก่าที่เคลือบเครื่องบินออก การขัดและเคลือบสีใหม่ และใช้เครื่องหมายที่บ่งบอกถึงการตำนานการบินอย่างแท้จริง และท่าเรือ 86 ก็ถูกตกแต่งใหม่เพื่อรองรับ "ลุคใหม่" ของคองคอร์ดด้วย



คองคอร์ด เป็นเครื่องบินโดยสารปีกรูปทรงสามเหลี่ยมและลำตัวเรียวยาว โดยเป็นผลงานการสร้างร่วมกันระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส โดยเริ่มปี 2505 ก่อนที่เครื่องบินลำแรกจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2512 แต่การให้บริการด้านพาณิชย์เริ่มเมื่อปี 2519 และผู้พัฒนาระบุว่าได้รับคำสั่งซื้อถึง 350 ลำ แต่ด้วยเพราะตอนนั้นมีปัญหาเรื่องเชื้อเพลิงราคาพุ่งขึ้น ให้เครื่องบินสร้างเสร็จเพียง 20 ลำ และมีแต่สายการบินบริติช แอร์เวย์ส กับสายการบิน แอร์ฟรานซ์ (Air France) เท่านั้นที่ได้ใช้งานก่อน และกลายเป็นเที่ยวบินข้ามหาสมุทรแอตแลนติก จากสนามบิน JFK ในนิวยอร์ก ไปยังสนามบินฮีทโรว์ในกรุงลอนดอนที่เร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 59 นาที กับอีก 59 วินาที และกลายเป็นเที่ยวบินยอดนิยมนับแต่นั้น

คองคอร์ดใช้ลูกเรือ 9 คน สามาถบินด้วยความเร็ว 2,150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนความสูง 60,000 ฟุต สูงมากพอที่ผู้โดยสาร 100 คน สามารถมองเห็นเส้นโค้งของโลก แต่น่าเสียดายที่มันถูกห้ามใช้ในหลายประเทศ ด้วยเพราะความดังของเสียง จนกระทั่งถูกถอดอกจากการให้บริการในปี 2546 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูง แต่หลังจากนั้นการพัฒนาเครื่องบินพาณิชย์ความเร็วเหนือเสียงรุ่นต่อ ๆ ไป ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเลย