นับตั้งแต่ใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินล้างแค้นกลุ่มติดอาวุธของฮามาส ที่เข้าไปก่อเหตุสังหารหมู่บนแผ่นดินอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 253 คน อิสราเอลได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ เพื่อทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่เชื่อว่า นายยาห์ยา ซินวาร์ และผู้บัญชาการคนอื่น ๆ ของกลุ่มติดอาวุธซ่อนตัวอยู่
แม้อุโมงค์บางแห่งจะถูกทำลายด้วยระเบิดและบางแห่งถูกปล่อยน้ำเข้าท่วม แต่ความคืบหน้าก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า เนื่องจากต้องมีการทำแผนที่ใต้ดิน และตรวจสอบกับดักและที่อยู่ของตัวประกันก่อนลงมือปฏิบัติการ ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอิสราเอลเชื่อว่า เครือข่ายอุโมงค์ที่ซับซ้อนไม่ต่างจากเขาวงกตใต้ดิน ถูกทำลายจนเสียหายหรือใช้งานไม่ได้เพียง 20-40%
เจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่า กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล (IDF) ได้มุ่งเน้นไปที่การทำลาย "จุดเชื่อมต่อ" (nodes) ภายในอุโมงค์ ที่นักรบฝ่ายปฏิบัติการของฮามาสใช้ซ่อนตัวและเป็นคลังแสง แทนที่จะทำลายเครือข่ายทั้งหมด ซึ่งเป็นภารกิจที่ยากเพราะต้องค่อยเป็นค่อยไป และเป็นสงครามในเมืองที่ไม่ได้ปรากฎอยู่ทั่วโลก
การเปิดเผยเรื่องนี้มีขึ้นในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซายังดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะที่คาน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ขณะที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เผชิญข้อกล่าวหาว่ามีลูกจ้างถึง 12 คน ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้หลายประเทศระงับการให้เงินช่วยเหลือ แม้ UNRWA จะระบุว่าปลดคนเหล่านี้ไปแล้วก็ตาม
ประเทศผู้บริจาครายใหญ่ ได้แก่ สหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรเลีย ได้ระงับการให้เงินช่วยเหลือ UNRWA เพราะข้อกล่าวหานี้ ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของ UNRWA โดยส่งเงินไปช่วยเหลือหลายล้านดอลลาร์ ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว สหรัฐฯ บริจาคเงินจำนวน 153.7 ล้านดอลลาร์ ที่มากพอจะช่วยให้โรงเรียน 700 แห่ง และสถานีอนามัยกลับมาเปิดได้ในเดือนหน้า