ทำไมคนรวยต้องเลี้ยงสัตว์หายาก ไม่เลี้ยงสุนัข-แมว เหมือนคนอื่น

การเลี้ยงสัตว์ป่า หรือสัตว์หายาก กลายเป็นเทรนด์เลี้ยงสัตว์ของคนรวยทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกา ตะวันออกกลาง หรือในเอเชีย ที่ต้องการโชว์สถานะว่าตัวเองมีเงินเหลือใช้ เพราะการเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงในบ้านเป็นสัตว์เลี้ยง แม้บางประเทศจะเลี้ยงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็มีขั้นตอน กฎระเบียบที่ยุ่งยาก ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อสัตว์มาเลี้ยง และใช้ในการดูแล

ดังนั้นการที่คนรวยจะเลี้ยง "สิงโต" หรือ "เสือ" หรือสัตว์ป่าหายากอื่นๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากการซื้อรอเฟอร์รารี่ หรือลัมโบร์กินี เป็นเหมือนสิ่งที่ต้องมีเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า “ฉันเป็นคนรวยแล้ว” และเมื่อมีแล้ว ก็ต้องเอาออกมาโชว์ให้คนอื่นเห็น เราจึงเห็นคนรวยถ่ายรูป ถ่ายคลิป "สิงโต" หรือ "เสือ" ที่เลี้ยงไว้ในบ้าน แล้วโพสต์เรียกยอดไลค์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งคลิปเหล่านี้ ก็มักได้ยอดไลค์ ยอดวิวจำนวนมาก ยิ่งทำให้คนเลี้ยงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนพิเศษ ที่ได้เลี้ยงสัตว์ป่าไว้ในบ้าน

ลิซ่า เวทธ์ ผู้จัดการดูแลสัตว์ป่าที่ถูกเลี้ยง จากองค์กรมนุษยธรรมในสหรัฐฯ บอกว่าสาเหตุที่คนรวยชอบเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการโอ้อวด

“เป็นเรื่องของการโอ้อวดล้วนๆ เวลาที่คุณเห็นคนจูงเสือออกมาเดินเล่น หรือเอางูตัวใหญ่ๆ มาคล้องคอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาทำไปเพื่อตัวเองทั้งนั้น โดยไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของสัตว์ที่ถูกจับมา” เวทธ์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Vice

องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า Born Free ในสหรัฐฯ ประเมินว่ามีสิงโตและเสือประมาณ 5,000 ตัว ถึง 7,000 ตัว ที่ถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ทั่วโลก ซึ่งมีทั้งสิงโตและเสือที่ถูกจับมาจากธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย บางตัวถูกขายจากสวนสัตว์ บางตัวถูกเพาะพันธุ์ในฟาร์มเลี้ยง โดยสัตว์เหล่านี้ เมื่อมีอายุมากขึ้น คนเลี้ยงมักจะรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะเลี้ยงดูต่อไป หลายๆ ตัวต้องถูกฉีดยาให้ตาย หรือถูกเลี้ยงในสภาพที่น่าสงสาร