หลังจากที่เสียงปืนและการต่อสู้ได้เงียบลงทั่วฉนวนกาซาเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดสัปดาห์ นักรบฮามาสได้ปล่อยตัวประกันจำนวน 24 คน ในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. ท่ามกลางการหยุดยิงครั้งแรกของสงคราม ตัวประกันที่ได้รับอิสระ มีทั้งผู้หญิงและเด็กชาวอิสราเอล และคนงานในฟาร์มของไทย ซึ่งถูกส่งตัวออกจากฉนวนกาซาและส่งมอบให้กับทางการอียิปต์ที่จุดผ่านแดนราฟาห์ ก่อนจะขึ้นขบวนรถเพื่อเดินทางกลับสู่อิสราเอล หลังจากที่ตัวประกันเหล่านี้ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสควบคุมตัวไว้เป็นเวลา 49 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม
หลังจากนั้นตัวประกันได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายและสภาพจิตใจอย่างละเอียด ระหว่างทางมีชาวอิสราเอลกลุ่มหนึ่งมายืนโบกธงรอแสดงความยินดีเพื่อต้อนรับทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย
นี่เป็นแค่การแลกเปลี่ยนตัวประกันชุดแรกเท่านั้น เพราะภายใต้เงื่อนไขของการสงบศึกเป็นเวลา 4 วันระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ระบุว่า ตัวประกันผู้หญิงและเด็ก 50 คนจะต้องได้รับการปล่อยตัวในช่วงสี่วันนี้ เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 150 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำของอิสราเอล
ขณะที่อิสราเอลกล่าวว่า การพักรบยังสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก หากทางฮามาสมีการปล่อยตัวตัวประกันเพิ่มในอัตรา 10 คนต่อวัน
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดให้กลับมาอย่างปลอดภัยในที่สุด นี่คือหนึ่งในเป้าหมายของสงคราม และเราตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายของสงครามทั้งหมด ซึ่งน่าจะรวมถึงการกำจัดกลุ่มฮามาสและเข้าควบคุมฉนวนกาซาด้วย
ด้านพลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงข่าวไม่นานหลังจากตัวประกันชุดแรกได้รับการปล่อยตัวออกจากฉนวนกาซา โดยบอกว่าเมื่อการสงบศึกจบลง กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล หรือ IDF ก็จะเสร็จสิ้นการเตรียมความพร้อมสำหรับสงครามระยะต่อไป เพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่อประเทศ โดยจะเร่งติดตามหาตัวผู้นำกลุ่มฮามาสทั้งในฉนวนกาซาหรือแหล่งกบดานที่อื่นๆทั่วโลก แต่ตอนนี้หัวใจหลักของภารกิจยังคงเป็นการช่วยเหลือตัวประกันที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา
ขณะที่ทางฝั่งปาเลสไตน์ก็ได้รับตัวนักโทษจากเรือนจำอิสราเอลเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน โดยที่รอมัลลอฮ์ ของเวสแบงก์ ซึ่งถือเป็นเป็นเมืองหลวงโดยพฤตินัยของรัฐปาเลสไตน์ ก็มีการจัดขบวนต้อนรับ และมีผู้คนออกมารวมตัวกันจำนวนมาก
หนึ่งในนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัว คือ เลทธ์ โอธแมท อายุ 17 ปี ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า สภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำอิสราเอล เรียกได้ว่าเป็นหายนะ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตออกจากห้องขัง ไม่มีอาหารดีๆ ไม่มีอะไรเลย อยู่กันอย่างหิวโหย และสถานการณ์เลวร้ายมาก