คณะรัฐมนตรีของอิสราเอลลงมติในเช้าวันพุธ (22 พฤศจิกายน 2566) หลังการประชุมตั้งแต่คืนวันอังคาร รับรองข้อตกลงพักรบและการปล่อยตัวประกันบางส่วนจากกว่า 200 คน ที่ถูกฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ จับตัวจากอิสราเอลไปฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยข้อตกลงได้รับการไกล่เกลี่ยจากกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ
แม้แถลงการณ์ของรัฐบาลไม่ได้ระบุรายละเอียดทั้งหมด แต่จากการเปิดเผยทั้งของเจ้าหน้าที่อิสราเอลและกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ ระบุว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันพลเรือนอิสราเอล 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยปล่อยตัววันละ 12-13 คน และอิสราเอลและฮามาสตกลงระงับการสู้รบนาน 4 วัน และหลังครบกำหนดดังกล่าว หากมีการปล่อยตัวประกันเพิ่มทุก 10 คน จะส่งผลให้เพิ่มการหยุดยิงครั้งละ 1 วัน ข้อตกลงจะมีผลภายใน 24 ชม. หลังการประกาศอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิสราเอลจะปล่อยตัวผู้หญิงและเยาวชนปาเลสไตน์จากเรือนจำและอนุญาตให้กลับบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมฝั่งตะวันออกแต่ไม่ระบุจำนวน ขณะที่ฮามาสระบุจำนวน 150 คน ในแถลงการณ์ขานรับข้อตกลงพักรบเพื่อมนุษยธรรม
อิสราเอลยังตกลงอนุญาตให้ส่งเชื้อเพลิงเข้าสู่ฉนวนกาซาได้เพิ่มขึ้น และความช่วยเหลือด้านมนุยธรรมอื่น ๆ จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ส่วนฮามาสระบุว่าในข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ อิสราเอลจะระงับการบินของโดรนเหนือพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซา และจำกัดการใช้โดรนในพื้นที่ตอนเหนือของกาซาเพียง 6 ชม. ระหว่าง 10.00 น.-16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตามฮามาสย้ำว่า "แม้ยอมตกลงหยุดยิง แต่ยืนยันพร้อมลั่นไกทุกเมื่อ" และนักรบที่ฮึกเหิมยังคงพร้อมปกป้องประชาชนและต้านทานการยึดครอง
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงก่อนการประชุมของคณะรัฐมนตรีโดยย้ำว่า
"เรายังอยู่ในสงคราม และสงครามจะดำเนินต่อไปจนกว่าเป้าหมายทั้งหมดบรรลุผล"
ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวรวมถึงการกำจัดฮามาสให้พ้นจากฉนวนกาซา, ตัวประกันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว และไม่มีภัยคุกคามต่อความมั่นคงอิสราเอลอีกต่อไป เขาบอกด้วยว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องยากแต่ถูกต้อง และยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่หยุดพักจนกว่าทุกคนได้รับการปล่อยตัว
นอกจากนี้โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มแรงกดดัน ให้ฮามาสยอมเจรจาและปล่อยตัวประกัน พร้อมทั้งยืนยันว่า เมื่อครบกำหนดหยุดยิง ปฏิบัติการในการกาซาจะเดินหน้าต่ออย่างเต็มกำลัง