โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีอียิปต์ แถลงยืนยันว่า ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตกลงร่วมกันเรื่องการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซาอย่างยั่งยืนผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ โดยความช่วยเหลือดังกล่าวจะดำเนินการโดยหน่วยงานของทั้งอียิปต์และสหรัฐฯ ร่วมกับองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศภายใต้การกำกับของสหประชาชาติ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดน เปิดเผยกับสื่อขณะอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เพื่อกลับสหรัฐฯ หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนอิสราเอลเมื่อวันพุธว่า ผู้นำอียิปต์ตกลงเปิดด่านราฟาห์เพื่อให้รถบรรทุกความช่วยเหลือ 20 คันเข้าสู่ฉนวนกาซาได้ โดยคาดว่าจะเริ่มข้ามแดนได้ในวันศุกร์เนื่องจากต้องมีการซ่อมแซมถนน และรถบรรทุก 20 คันเป็นเพียงส่วนหนึ่ง โดยขณะนี้มีรถบรรทุกราว 150 คันเข้าแถวรออยู่ในบริเวณจุดผ่านแดน
ที่ผ่านมาอียิปต์ ยืนยันว่า จุดผ่านแดนราฟาห์ไม่ได้ปิด แต่ไม่สามารถดำเนินงานได้สืบเนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซา และสื่อรายงานว่า มีชาวต่างชาติเฝ้ารอที่ด่านนานหลายวันเพื่อหวังอพยพออกจากฉนวนกาซา แต่จำนวนมากยอมออกจากด่านไป เนื่องจากยังมีการทิ้งระเบิดโจมตีของอิสราเอลในเมืองราฟาห์
เมื่อวันพุธสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันว่า อิสราเอลจะไม่ขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางอียิปต์เข้าสู่ฉนวนกาซา แต่จะไม่อนุญาตให้มีการขนส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ผ่านทางดินแดนอิสราเอล จนกว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่จับไปทั้งหมด
ขณะที่มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการมนุษยธรรม บอกในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นเมื่อวันพุธว่า ต้องการให้รถบรรทุกจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซาวันละ 100 คัน เหมือนช่วงก่อนเกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม