svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

อังกฤษห้ามใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ในโรงเรียน

"โทรศัพท์มือถือ" กลายเป็นอุปกรณ์ต้องห้ามสำหรับโรงเรียนทั่วประเทศอังกฤษ หลังจากจิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีศึกษาธิการ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงเพื่อหวังจะ "แบ่งเบา" ภาระของพ่อแม่และครูหลายล้านคน

จิลเลียน คีแกน ได้ออกคำสั่งในวันนี้ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องเรียน และห้ามใช้แม้กระทั่งเวลาพักไม่ว่าจะเป็นพักเที่ยงหรือพักอื่น ๆ โดยให้มีผลบังคับใช้ทุกโรงเรียน เพื่อยุติ "การรบกวน" และเพื่อให้นักเรียนโฟกัสแต่การเรียนเท่านั้น 

แหล่งข่าวที่ทราบเรื่องการตัดสินใจของคีแกนเปิดเผยว่า เธอเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือเป็นตัวการให้เกิดความท้าทายร้ายแรง ทั้งในแง่ของการเบี่ยงเบนความสนใจ พฤติกรรมก่อกวนและกลั่นแกล้งกัน ถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดที่เด็ก ๆ และครูต้องเผชิญ เธอจึงต้องการวางแนวทางในการมอบอำนาจให้แก่ครู ในการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน

อังกฤษห้ามใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ในโรงเรียน

มีบางโรงเรียนที่ห้ามการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยนักเรียนต้องมอบโทรศัพท์มือถือให้ครูตั้งแต่ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน ถ้าฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษด้วยการกักบริเวณ แต่ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่อนุญาตให้ใช้ได้โดยเฉพาะในช่วงพัก แม้ว่าจะมีหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากโทรศัพท์มือถือก็ตาม 

การประกาศห้ามนำโทรศัพท์มือถือในห้องเรียนและช่วงพัก ได้มีขึ้นที่ ณ ที่ทำการพรรคอนุรักษ์นิยมในเมืองแมนเชสเตอร์ และนับเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด หลังจากมีการโต้เถียงกันในประเด็นนี้มาหลายปี เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะประกาศใช้ที่โรงเรียนใดบ้าง เฉพาะแค่ของรัฐบาลหรือขยายไปถึงโรงเรียนเอกชนด้วย

อังกฤษห้ามใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ในโรงเรียน

มีพ่อแม่จำนวนมากยอมให้ลูก ๆ นำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน เพื่อให้สามารถติดต่อได้ในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงการเดินทางไป-กลับโรงเรียน แต่ขณะเดียวกันก็พบว่าการนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องเรียน ต้องเผชิญกับการถูกรบกวนจากการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจหรือหยุดชะงักในการเรียน, เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการกลั่นแกล้งกันทางอินเตอร์เน็ต และอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกปล้นชิงโทรศัพท์มือถือ 

เมื่อเดือนมิถุนายน ฟินแลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่สั่งห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในชั้นเรียน เพื่อพยายามแก้ไขคะแนนผลการสอบที่ลดลง และในอีกหนึ่งเดือนถัดมาองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ UNESCO ได้ออกรายงานในเชิงแนะนำว่า ควรห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้, รับมือกับการหยุดชะงักในชั้นเรียนและการกลั่นแกล้งกันทางไซเบอร์ 

อังกฤษห้ามใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ในโรงเรียน

รายงานของ UNESCO ยังระบุหลักฐานที่แสดงว่า การใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไปนั้นเชื่อมโยงกับผลการเรียนที่ลดลง และเตือนว่าประเทศต่าง ๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีวัตถุประสงค์และหลักการที่ชัดเจนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการศึกษา เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายทั้งต่อนักเรียนและประชาธิปไตยในวงกว้าง

ออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ของ UNESCO ให้ความเห็นว่า ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ต่อ "digital revolution" ในการนำมาใช้เพื่อการศึกษา ซึ่งวิธีการใช้นั้นจะต้องยกระดับประสบการณ์การเรียนรู้ และความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนและครูโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากผลการศึกษา พบความเชื่อมโยงระหว่างโทรศัพท์มือถือกับสุขภาพจิตที่ไม่ดีในเด็ก รวมถึงความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า และความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ

ยังมีความวิตกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยว่า นักเรียนจำนวนมากใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการรังแกกันบนโซเชียลมีเดีย และเพื่อการคุกคามทางเพศ ทำให้มีหลายโรงเรียนสั่งห้ามไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน จนกระทั่งมาถึงจุดที่กระทรวงศึกษาธิการออกคำสั่งห้ามล่าสุด