เกาหลีใต้จัดพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี

ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้ เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของการสถาปนากองทัพ ที่ฐานทัพอากาศในเมืองซองนัม จังหวัดคย็องกี ใกล้กรุงโซลท่ามกลางสายฝนในเช้าวันอังคาร (26 กันยายน) โดยปีนี้พิธีจัดขึ้นก่อนวันก่อตั้งกองทัพที่ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม 
เขากล่าวว่า เกาหลีเหนือยังคงพัฒนาศักยภาพด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง และขู่อย่างเปิดเผยว่าจะใช้นิวเคลียร์ นับเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนเกาหลี และความท้าทายต่อสันติภาพของโลก พร้อมกับเตือนว่า หากเกาหลีเหนือยังคงยั่วยุ กองทัพเกาหลีใต้จะตอบโต้อย่างทันทีตามศักยภาพการสู้รบ และความพร้อมทางทหารที่แข็งแกร่ง และหากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก็จะเผชิญจุดจบด้วยการตอบโต้อย่างหนักหน่วงกว่าจากพันธมิตรเกาหลีใต้และสหรัฐฯ

นอกจากนี้ประธานาธิบดียุนร่วมชมขบวนทหารและอาวุธยุทโธปรณ์ที่จัดแสดงในพิธี และเคลื่อนตัวเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงโซล 

หลังจากนั้นในช่วงบ่ายผู้นำเกาหลีใต้ พร้อมด้วยรัฐมนตรีกลาโหมและเหล่าผู้บัญชาการทหาร ร่วมเดินขบวนในพิธีสวนสนาม ที่มีทหารและอาวุธยุทโธปรณ์เคลื่อนขบวนไปตามถนนระยะทาง 1.2 กม. ในย่านการค้าและธุรกิจใจกลางกรุงโซล โดยมีฝูงชนเฝ้ารอชมตามสองข้างทางและส่งเสียงเชียร์

พิธีสวนสนามจัดขึ้นในใจกลางกรุงโซลเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยปกติกองทัพจะจัดพิธีสวนสนามไปตามท้องถนนทุก 5 ปี แต่สมัยประธานาธิบดีมุน แจ อิน ไม่ได้จัดในปี 2561 เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นสร้างความปรองดองกับเกาหลีเหนือและบรรยากาศความสัมพันธ์อันดีในช่วงนั้น 
ในพิธีสวนสนามปีนี้มีทหารเข้าร่วมเกือบ 3,700 นาย ซึ่งรวมถึงทหารสหรัฐฯ และมีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่า 170 รายการออกมาร่วมขบวนเพื่อแสดงแสนยานุภาพ  ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธฮยอนมู, ระบบต่อต้านขีปนาวุธ แอล-แซม, เฮลิคอปเตอร์โจมตี, โดรนสอดแนม, เครื่องบินรบ และรถถัง โดยระบบต่อต้านขีปนาวุธ แอล-แซม (L-SAM) ถูกนำออกมาแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และเครื่องบินขับไล่ KF-21 ที่เกาหลีใต้ผลิตเองลำแรกถูกนำมาจัดแสดงในพิธีด้วย

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ขีปนาวุธฮยอนมู เป็นหนึ่งในขีปนาวุธรุ่นล่าสุดของเกาหลีใต้ และจะเป็นอาวุธสำคัญสำหรับแผนการโจมตีเกาหลีเหนือ หากเกิดการสู้รบ และระบบต่อต้านขีปนาวุธ แอล-แซม ถูกออกแบบให้สามารถยิงสกัดขีปนาวุธ ที่ระดับความสูง 50-60 กม.

ทหารสหรัฐฯ ราว 300 นายเข้าร่วมพิธีสวนสนามของเกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงถึงความเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและครบรอบ 70 ปีในปีนี้