ฮ่องกงเป็นอัมพาต หลังฝนถล่มจมบาดาล เจ็บ 132 คน
พื้นที่ส่วนใหญ่ของฮ่องกงเป็นอัมพาตหลังฝนตกหนักที่สุดในรอบ 140 ปี ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 132 คน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า ขาดการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ
รัฐบาลขอให้ธุรกิจต่าง ๆ อนุญาตให้พนักงานที่ไม่มีหน้าที่จำเป็นอยู่บ้านหรือหลบในที่ปลอดภัย เนื่องจากสภาพการเดินทางไม่ปลอดภัย 
ฝนตกหนักทำให้ระบบคมนาคมหยุดชะงัก ถนนหลายสายกลายเป็นแม่น้ำไหลเชี่ยว กระแสน้ำยังทะลักเข้าท่วมสถานีรถไฟใต้ดิน ห้างสรรพสินค้า และลานจอดรถ รวมถึงเกิดดินถล่มและถนนทรุดในหลายจุด นอกจากนี้ตลาดหุ้นยกเลิกการซื้อขายภาคเช้า และโรงเรียนทุกแห่งปิดเรียน
นอกจากนี้โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บ 132 คน ได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่ง 4 คน มีอาการสาหัส และ 68 คน ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ก่อนหน้านั้นศูนย์อุตุนิยมวิทยา รายงานว่า วัดปริมาณฝนได้ 158.1 มิลลิเมตรช่วงระหว่าง 23.00 น.-24.00 น. ของวันพฤหัสบดี (7 กันยายน) ซึ่งเป็นปริมาณฝนต่อ 1 ชั่วโมงที่วัดได้มากที่สุดนับจากเริ่มบันทึกสถิติในปี 2427 
เขาบอกด้วยว่า การพยากรณ์พายุฝนทำได้ยากกว่าพายุไต้ฝุ่น และระบบพยากรณ์อากาศปัจจุบันทำนายฝนเกินกว่า 70 มิลลิเมตรได้ภายในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้าเท่านั้น จึงไม่อาจประเมินระยะเวลาและความรุนแรงของฝนตกได้ แต่เขาเห็นด้วยว่า ควรจะมีการทบทวนระบบการเตือนภัยและการสื่อสารกับประชาชนให้ดีขึ้น
นอกจากนี้สำนักงานระบายน้ำ บอกว่า ยังไม่มีเวลาพอเก็บกวาดความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น “เซาลา” และแม้พายุดังกล่าวไม่ได้ทำให้ฝนตกหนักมาก แต่ลมแรงมากทำให้ต้นไม้หักโค่นและเกิดความเสียหายอื่น ๆ ซึ่งเศษซากเหล่านี้กีดขวางระบบระบายน้ำ ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนักตอนนี้ ระบบระบายน้ำจึงไม่อาจทำงานได้เต็มกำลัง