svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนาม แดงสะพรั่งทั้งแผ่นดิน

ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนามมาถึงแล้ว ดูได้จากทางสู่ตลาดใหญ่แดงสะพรั่งไปด้วยรถบรรทุกลิ้นจี่ ที่ชาวเวียดนาม เชื่อว่า เป็นผลไม้แห่งความโชคดี, ผลไม้แห่งความรัก และผลไม้แห่งความโรแมนติก

ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนาม แดงสะพรั่งทั้งแผ่นดิน ปกติ เวียดนามจะปลูกลิ้นจี่ใน 2 จังหวัด คือ หาย เซือง (Hai Duong) กับบั๊กซาง (Bac Giang) ซึ่งปัจจุบัน ลิ้นจี่ถือเป็น "เส้นชีวิต" ของเกษตรกรชาวเวียดนาม ในแต่ละปี พวกเขาปลูกและเก็บเกี่ยวได้ปีละประมาณ 200,000 ตัน ในจำนวนนี้ 10% ถูกคัดเพื่อส่งออก

ลิ้นจี่เวียดนาม ขึ้นชื่อเรื่องผิวข้างในเป็นสีแดง เนื้อนุ่มเหมือนเยลลี่ รสชาติหวานฉ่ำอร่อย และเป็นที่นิยมมากที่สุดในเวียดนาม จนได้รับสมญาว่า "ผลไม้นำโชค", "ผลไม้แห่งความรัก" และ "ผลไม้แห่งความโรแมนติก"

พื้นที่ปลูกลิ้นจี่ได้อย่างมีคุณภาพที่สุด คืออำเภอลุก งัน จังหวัดบั๊กเกียง กับอำเภอธันห์ ฮา จังหวัดหายเซือง โดยมีลักษณะพิเศษตรงที่มีขนาดใหญ่ มีความหวานมากกว่าลิ้นจี่ในแหล่งเพาะปลูกที่อื่นๆ ของเวียดนาม 

"ฤดูลิ้่นจี่มีระยะเวลา เพียง 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม และช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บเกี่ยว คือ เดือนมิถุนายน ส่วนพื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก คือ ทางเหนือ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และเชื่อว่าเป็นถิ่นกำเนิดของลิ้นจี่ท้องถิ่น ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดง (Red River) ตั้งแต่ 100 ปีก่อนคริสต์ศักราช  ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนาม แดงสะพรั่งทั้งแผ่นดิน

ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนาม แดงสะพรั่งทั้งแผ่นดิน ชาวเวียดนามเชื่อว่า ลิ้นจี่พื้นเมืองที่มีลักษณะมันวาว ฉ่ำน้ำ และหวานราวผลไม้จากสวรรค์ มีคุณสมบัติที่เป็นมงคลที่จะนำความโชคดี ความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์มาให้ ทั้งยังถูกบรรจุในรายชื่อผลไม้บำรุงสุขภาพ เป็นแหล่งใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ บรรเทาอาการปวด ไปจนถึงรักษามะเร็งและโรคไต

อกจากนี้ ยังเป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การปลูกลิ้นจี่ได้แพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน เมียนมา อินเดีย และล่าสุดไปถึงมาดากัสการ์ แอฟริกาใต้ และเม็กซิโก นอกจากนี้ ยังพบต้นลิ้นจี่ได้ที่สิงคโปร์เช่นกัน โดยต้นที่มีชื่อเสียงที่สุด คือต้นที่มีขนาดใหญ่สูงถึง 18 เมตร ที่ตระหง่านอยู่ริมถนน  "Mt Rosie" ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติสิงคโปร์ (Singapore National Parks Board) ได้เลือกต้นลิ้นจี่ต้นนี้ เพื่อการอนุรักษ์ภายใต้โครงการ "Heritage Trees Scheme"

ฤดูลิ้นจี่ของเวียดนาม แดงสะพรั่งทั้งแผ่นดิน หลายปีมานี้ เวียดนามได้ประยุกต์กระบวนการที่เรียกว่า "VietGAP" และ "GlobalGAP" ทำให้การปลูกลิ้นจี่มีมาตรฐาน พื้นที่เพาะปลูกลิ้นจี่ได้รับรหัสเฉพาะสำหรับการส่งออก โดยต้องผ่านการตรวจสอบเพื่อควบคุมขั้นตอนการเพาะปลูก และตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยการประทับตรา เพื่อช่วยให้ลูกค้าที่ซื้อลิ้นจี่จากเวียดนาม สามารถตรวจสอบและติดตามผลิตภัณฑ์ลิ้นจี่ได้อย่างง่ายดาย ด้วยความพยายามเหล่านี้ ลิ้นจี่ของเวียดนามจึงค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อจากต่างประเทศว่าเป็น "ลิ้นจี่ที่ดีที่สุดในโลก"

ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา เวียดนามส่งออกลิ้นจี่ไปยังสิงคโปร์ ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ซึ่งนำเข้าโดยเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตของสิงคโปร์ "NTUC FairPrice" ทั้งยังเข้ารว่มฉลองเทศกาล "Duanwu" ที่รู้จักในชื่อ "เทศกาลบ๊ะจ่าง" หรือ "เทศกาลแข่งเรือมังกร" อันเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานสำหรับการสังสรรค์ในครอบครัว โดยมีลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ช่วยส่งเสริมคุณค่าดั้งเดิมและกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว

เพื่อเป็นการส่งเสริม การท่องเที่ยวเวียดนาม "Vietnam Travel" ได้จัดทริปไปยังลุก งัน และธันห์ ฮา ในฤดูลิ้นจี่ ทั้งยังประชาสัมพันธ์ในเว็บไซท์  "Vietnam Travel Consultant" ด้วยว่า ถ้าต้องการพบปะกับซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น หรือเพียงแค่ลองลิ้นจี่ที่ดีที่สุดในสวน หรือถ่ายรูปในสถานที่จริง ให้ติดต่อในเว็บไซท์