รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 หรือประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ได้เริ่มการประชุมที่เมืองคารุยซาวะ ของญี่ปุ่น ซึ่งประเทศที่เป็นเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นพยายามที่จะนำเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคขึ้นมาเป็นหัวข้อหลักของการประชุม โดยเฉพาะเรื่องความตึงเครียดที่จีนอาจจะใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวัน และสงครามในยูเครน ที่ทาง ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น มองว่าสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกัน
คิชิดะ ที่ปรับงบประมาณป้องกันประเทศของญี่ปุ่นให้สูงกว่าเดิม เคยพูดอยู่เสมอว่า ‘ยูเครนในวันนี้ อาจจะเป็นเอเชียตะวันออกในวันหน้า’ โดยปัญหาความมั่นคงในยุโรปและในอินโด-แปซิฟิก ไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ เพราะทั้งสองเรื่องมีความเกี่ยวข้องกัน
แม้ว่าที่ผ่านมา สมาชิกของกลุ่ม G7 จะมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่แสดงความเป็นห่วงและออกมาเตือนจีนว่า หากจีนใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวันจะเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวสำหรับคนทั้งโลก แต่ว่าฝรั่งเศสกลับเริ่มมีท่าทีเข้าข้างจีน หลังจากที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งและได้พบกับสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งท่าทีที่เปลี่ยนไปของฝรั่งเศสก็สร้างความประหลาดใจให้กับชาติสมาชิก G7 ชาติอื่นๆ
นักวิเคราะห์คาดว่าการประชุม G7 ครั้งนี้ ชาติสมาชิกจะพยายามหาจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับท่าทีต่อจีน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะแต่ละชาติสมาชิกก็มีแนวคิดต่อจีนที่แตกต่างกัน
ในส่วนของจุดยืนต่อสงครามยูเครน ชาติสมาชิก G7 เห็นพ้องต้องกันอยู่แล้วว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไป และเรียกร้องให้รัสเซียถองกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งการประชุมที่เริ่มต้นในวันนี้ จะสิ้นสุดในวันอังคารที่ 18 เมษายนนี้ โดยประเด็นอื่นๆ ที่จะถูกหยิบยกมาหารือในที่ประชุม ประกอบด้วยเรื่องการปกครองอัฟกานิสถานของกลุ่มตาลีบัน ความรุนแรงในเมียนมา ปัญหาเรื่องความมั่งคงทางไซเบอร์ และปัญหาข่าวปลอม