
คำตัดสินดังกล่าวเป็นชัยชนะของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้ง และจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่ออนามัยการเจริญพันธุ์ทั่วสหรัฐฯ รวมทั้งสร้างความวิตกแก่หลายฝ่ายว่า พวกต่อต้านการทำแท้งอาจจะเดินหน้าเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้นเพื่อให้มีการห้ามทำแท้งทั่วประเทศ
แต่ผู้พิพากษาในรัฐเท็กซัสให้เวลารัฐบาล 7 วัน สามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านได้ และกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า จะยื่นอุทธรณ์
คำตัดสินของผู้พิพากษาในรัฐเท็กซัสมีขึ้นหลังจากกลุ่มต่อต้านการทำแท้ง “พันธมิตรปกป้องเสรีภาพ” ในรัฐเท็กซัส ยื่นร้องเรียนว่า การอนุญาตให้ใช้ยามิฟิพริสโตน ไม่ได้มีการศึกษาเรื่องความปลอดภัยของยาอย่างเหมาะสม
และในคำตัดสินยาว 67 หน้า ผู้พิพากษาระบุว่า การออกใบอนุญาตของ FDA ละเมิดกฎเกณฑ์ ที่อนุญาตให้สามารถอนุมัติยาบางชนิดอย่างเร่งรัดได้ และไม่พิจารณาผลกระทบด้านจิตวิทยาของยามิฟิพริสโตน รวมทั้งยาไม่เคยผ่านการทดสอบในการใช้ยากับเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี
สำหรับคำตัดสินของผู้พิพากษาสองคนที่ขัดแย้งกันเรื่องยาทำแท้งครั้งนี้ นับเป็นคำตัดสินสำคัญนับจากศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ในเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ลบล้างคำพิพากษาในคดีระหว่างโรและเวด ในปี 2516 ที่ระบุว่า สิทธิการทำแท้งได้รับการคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และส่งผลให้แต่ละรัฐมีอำนาจออกมาตรการห้ามทำแท้งได้