svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

29 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ช็อกวงการอีกครั้ง นักร้องชื่อดัง “โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลานชายราชาเพลงเร็กเก้ “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเสียชีวิตที่ชัดเจน

อีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการเพลงโลกก่อนสิ้นปี 2022

เป็นข่าวการจากไปอย่างสุดช็อกของสมาชิกครอบครัวและแฟนผลงานของ “โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” (Jo Mersa Marley) หรือ “โจเซฟ มาร์เลย์” (Joseph Marley) ศิลปินเร็กเก้ชื่อดังผู้เป็นบุตรชายคนโตของ “สตีเฟน มาร์เลย์” (Stephen Marley) ศิลปินเจ้าของ 8 รางวัลแกรมมี่และเป็นหลานคนที่สองของ “บ็อบ มาร์เลย์” (Bob Marley) ราชาเพลงเร็กเก้ในตำนาน

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” (Jo Mersa Marley) หรือ “โจเซฟ มาร์เลย์”

เป็นอีกข่าวสุดช็อกในวงการบันเทิง เมื่อสำนักข่าว ทีเอ็มซี รายงานว่า โจเซฟ โจ เมอร์ซา มาร์เลย์ หลานชายของ บ็อบ มาร์เลย์ (Bob Marley) ศิลปินชาวจาเมกาผู้เผยแพร่ดนตรีเร็กเก้ให้ชาวโลกได้รู้จักจนได้ชื่อว่าเป็น ราชาเร็กเก้ เสียชีวิตแล้ว นักร้องชื่อดังคนนี้ เป็นหลานชาย "ราชาเพลงเร็กเก้" เสียชีวิตกะทันหันในวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า “โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” ถูกพบว่า เขาได้เสียชีวิตในรถ หลังจากนั้นมีรายงานว่า "ล้มป่วยด้วยโรคหอบหืด" 

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

หลานชาย ราชาเพลงเร็กเก้ นักร้องดังวัย 31 ปี เป็นทายาทของ Stephen Marley และหลานชายของ Bob Marley ตำนานเร็กเก้ การเสียชีวิตของนักร้องหนุ่มได้รับการรายงานครั้งแรกโดย Abka Fitz-Henley นักข่าวชาวจาเมกา ซึ่งทวีตว่า

Marley ถูกพบว่าไม่ตอบสนองในรถเมื่อเช้าวันอังคาร ( 27 ธ.ค. 2565 ) ล่าสุดมีกระแสข่าวสะพัด ระบุว่า "โจ" ซึ่งเป็นศิลปินเพลงเช่นเดียวกับปู่ของเขา เสียชีวิตโดยมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับอาการหอบหืด แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนลงไปได้ 

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

เปิดประวัติพอสังเขปของ “โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน บ็อบ มาร์เลย์ 

"โจ" เป็นบุตรชายของ "สตีเวน มาร์เลย์" เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในจาเมกา ต่อมาเข้าเรียนและจบการศึกษาจากวิทยาลัยไมเอามี เดด และร่ำเรียนทางวิศวกรรมเสียง เขามีผลงานเพลงออกมาแล้ว 2 อัลบั้ม โดยมีเพลงฮิตคือ 'Burn It Donw' และ 'Eternal'

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” (Jo Mersa Marley) หรือ “โจเซฟ มาร์เลย์”


ย้อนอดีตมาทบทวน ทำความรู้จัก บ็อบ มาร์เลย์

บ็อบ มาร์เลย์ ผู้ที่เป็นปู่นั้นมีชื่อจริงว่า "โรเบิร์ต เนสตา มาร์เลย์"  เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1945 ในเขตชนบทของประเทศจาไมก้า สนใจและลุ่มหลงในดนตรีพื้นบ้าน (เร็กเก้) ของตนเอง โดยดนตรีชนิดนี้เป็นที่นิยมในพวกผู้ใช้แรงงานผิวดำในประเทศ โดยเนื้อเพลงส่วนใหญ่กล่าวถึงการแสวงหาเสรีภาพ สะท้อนมุมมองทางด้านการเมือง การแบ่งแยกสีผิวและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม มาร์เลย์ได้ทำให้ดนตรีเร็กเก้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเขาเองถูกเรียกว่า ราชาเร็กเก้ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

มาร์เลย์ เขามีเพียงกีตาร์และฮาร์โมนิการ์คู่ใจ ขับบรรเลงเพลงเรียกร้องเสรีภาพ เรียกร้องถึงจิตวิญญาณความเป็นธรรม และเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้ใช้แรงงานผิวสี หรือพลเมืองชั้นสองในสังคม

บทเพลงของ บ็อบ มาร์เลย์หลากหลายเพลง ถูกขบวนการคนผิวดำและต่อต้านการเหยียดสีผิวนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการแสดงออกถึงประเด็นทางสังคม กลุ่มขบวนการเหล่านี้คือกลุ่มหรือลัทธิรัสตาฟารี (Rasta Farians) ที่มีสีประจำคือ แดง เหลือง เขียว สีทั้งสามสีนี้เราสามารถพบเห็นได้ในเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลากหลายชนิดของผู้คนในสังคมผู้ชื่นชอบดนตรีเร็กเก้ เพราะดนตรีเร็กเก้กับลัทธิกลุ่มรัสตาฟารี (Rasta Farians) แทบจะกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี
“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี
ความหมายของสีทั้งสามอย่างนี้ก็แผกแตกต่างกันออกไป โดยสีแดงมีความว่า พระอาทิตย์ สีเหลืองมีความว่าผืนดิน สีเขียวมีความหมายว่าต้นไม้และความอุดมสมบูรณ์ และเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของผู้ชื่นชอบดนตรีเร็กเก้ คือการถักผมทรง Dread-lock (ทรงผมทรงหนึ่งที่เป็นที่นิยมใหมู่คนแคริบเบียน)

ที่เป็นสัญลักษณ์และลืมไม่ได้เลยสำหรับผู้นิยมดนตรีเร็กเก้เห็นจะเป็น กัญชา โดยลัทธิรัสตาฟารีมีความเชื่อว่า กัญชาเป็นสมุนไพรเพื่อทำสมาธิและใช้ในการเข้าพิธีกรรมในศาสนา ทุกครั้งเมื่อมีการทำพิธีกรรมต่างๆ ชาวรัสตาฟารีจะต้องเสพกัญชาก่อนเสมอ


ทั้งนี้ มาร์เลย์ตั้งวงดนตรีขึ้นมาชื่อว่า "บ็อบ มาร์เลย์ แอนด์ เดอะ เวลเลอร์ส" (Bob Marley and the Wailers) ในปี 1964 นับเป็นศิลปินเพลงเร็กเกคณะแรกที่โด่งดังไปทั่วโลก บทเพลงเร็กเก้เฟื่องฟูมากที่สุดในทศวรรษที่ 1970 โดยการตระเวนเล่นคอนเสิร์ตอย่างสม่ำเสมอและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของบ็อบ มาร์เลย์


ในปี 1975 บ็อบมาเลย์ได้แต่งงานกับริต้า พร้อมๆ กับการจัดคอนเสิร์ตที่เกือบทำให้เขาจากโลกนี้ไป โดยก่อนหน้าคอนเสิร์ต 2 วัน มีกลุ่มมือปืนมาดักยิงตัวเขา ริต้า และผู้จัดการวงดนตรี แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต เขายังคงเดินหน้าแสดงคอนเสิร์ตต่อไปทั้งๆ ที่ใช้ผ้าคล้องแขนกับคอเพราะบาดเจ็บ

“โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” หลาน “บ็อบ มาร์เลย์” เสียชีวิตกะทันหันในวัย 31 ปี
ปี 1976 บ็อบ มาเลย์ต้องงดรายการคอนเสิร์ตทัวร์ทั่วยุโรป เนื่องจากตรวจพบเป็นมะเร็งที่เท้าขวา อันเนื่องมาบาดแผลระหว่างการเล่นฟุตบอลในอดีตแล้วละเลยไม่รักษา แต่บ็อบก็สัญญากับตัวเองว่า เมื่ออาการดีขึ้น เขาจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ตทันที ซึ่งในคอนเสิร์ต One Love ที่จาไมก้าเมื่อ 22 เมษายน 1978 บนเวที บ็อบได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้ โดยการให้ประธานาธิบดี และผู้นำฝ่ายค้านขึ้นไปจับมือกันเหตุการณ์นี้ส่งผลให้เขาได้รับรางวัล The United Nations' Peace Medal ในเดือนมิถุนายน 1978


กระทั่งปี 1980 บ็อบเป็นผู้นำในการเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพของซิมบับเวย์ และกันยายนของปีเดียวกันนี้คณะแพทย์ตรวจพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังปอดและสมอง ได้ลงความเห็นกันว่าอีกไม่นานราชาเร็กเก้คงจากไป หมดหวังที่จะเยียวยารักษา แต่มาร์เลย์ก็ยังใจแข็งบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Stanley Theatre นครพิตสเบิร์ก โดยไม่รู้ตัวว่านั่นจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของตัวเอง

สิ้น “โจ เมอร์ซา มาร์เลย์” (Jo Mersa Marley) หรือ “โจเซฟ มาร์เลย์”
บ็อบ มาเลย์ อยากจะกลับ จาไมก้า-บ้านเกิด แต่ไปไม่ไหว จึงแวะพักที่นครไมอามี และจากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 1981 ด้วยวัยเพียง 36 ปีเท่านั้น และศพของเขาถูกนำกลับมาฝังไว้ที่บ้านเกิดในจาไมก้า

“บ็อบ มาร์เลย์” (Bob Marley) ราชาเพลงเร็กเก้ในตำนาน

logoline