"ป๋ากิ๊ก" เตรียมลาวงการ สอนพิธีกรรุ่นน้องใครอยากเก่งฟังทางนี้

ก่อนจะไปพูดคุยแพลนในอนาคต เจ้าตัวบอกเล่าที่มาที่ไปชื่อ “ซูโม่กิ๊ก” ?

“มาจากรายการ เพชฌฆาตความเครียด  เทียบกับยุคนี้ก็คือเหมือนรายการตลกหกฉาก ตอนนั้นก็เล่นหนังเยอะเหมือนกัน และซูโม่กิ๊กมาจากกลุ่มที่ชื่อซูโม่สำอางค์ แต่ละคนจะมีคำนำหน้าว่าซูโม่ทุกคน แล้วก็มีกลุ่มเสนาจากรายการยุทธการขยับเหงือก หลังจากนั้นพี่ก็ออกมาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง 3"

หลายคนบอกทะเลาะกับ “ติ๊ก กลิ่นสี” ?

“ไม่มี ไม่ได้ทะเลาะ ใครไปเอาข่าวมาจากไหน จะบอกว่าพี่กับพี่ติ๊กทะเลาะกันยากมาก หนึ่งเป็นเพื่อนกัน พี่ติ๊กเป็นคนดีมาก ถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีบริษัททริปเปิ้ลทู และเขาเป็นคนให้เกียรติรับฟัง เป็นคนยอมคนและยืดหยุ่น"

แพลนอนาคต ?

“ถามว่าไหวอยู่มั้ย ตอนนี้ยังไหวอยู่ แต่อาจจะถอยลงจาก 100% ก็เหลือ 90% เดี๋ยวนี้ระวังเบรคแล้วมีพักบ้าง ซึ่งเราก็นอนหลับเลย อย่างสมัยก่อนยังไปเดินเล่นได้ แต่เดี๋ยวนี้คือนอนอย่างเดียวเลย เรื่องหลานไม่ได้กดดันอะไรลูกๆ เค้าคงพยายามอยู่ เพราะเราพูดตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานแล้วว่า เราอยากมีหลาน ตอนนี้กำลังจะย้ายครอบครัวไปทำบ้านอยู่ที่สุพรรณบุรี เราเคารพทั้งสองครอบครัว การที่จะย้ายไปอยู่สุพรรณ เราก็เลยบอกเขาว่า ถ้าตัดสินใจจะอยู่สุพรรณเปากับเอิร์ธต้องเลือกว่าอยากมีบ้านอยู่ที่ไหน ต้องเลือกชีวิตของเค้าเอง เขาอยากเป็นเกษตรกรเค้าต้องไปสนุกสนานกับพ่อตาเค้า"

"หลังจากนั้นเขาก็ไปหาซื้อที่ดิน ได้ที่ดินที่ศรีประจันต์ แม่เค้าก็ชอบ การที่เราอยู่ที่ไหนเลือกที่จะทำอะไร ต้องคิดว่าเรามีความสุขมั้ย ถ้าเกิดฝืนที่จะต้องมีความสุขเพื่อลูกเมียมันไม่ได้ คนเราต้องอยู่บนพื้นฐานความสุข ถ้าวันหนึ่งเส้นที่มันมัดไว้ขาดกันขึ้นมา มันก็จะตีกันเหมือนเดิม บั้นปลายชีวิตอยากไปอยู่สุพรรณ เพราะความสุขของเราคือการได้อยู่กับลูก เราตั้งใจจะเกษียณอายุในวงการตอน 65”

ฝากถึงรุ่นน้องพิธีกร “ถ้าว่างก็ยังอ่านหนังสืออยู่เหมือนเดิมเป็นโฟโต้บุ๊ค หรือเป็นเรื่องที่วิเคราะห์โน่นนี่นั่น หรือจะเป็นนิยายหนังสือฝรั่งเศสไทยได้หมด มันสามารถช่วยงานพิธีกรได้ ใครที่อยากเป็นพิธีกรต้องเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือ เพื่อสะสมประสบการณ์ชีวิต เอาจากวิธีการที่คนอื่นเค้าเขียนมาทำให้สมองเรากว้างขึ้น ถึงจะไม่ลึกแต่กว้างมากจริงๆ และการอ่านออกเสียงชัดเจน เราจะรู้เลยว่าคำไหนที่เราไม่ถนัด”

ที่มา : รายการโต๊ะหนูแหม่ม