แต่อย่างไร กานต์ - วิภากร ก็ได้ยกมือไหว้ลูกๆ พร้อมกับบอกว่าแม่ผิดเองที่วันนั้นทำไม่ดีและทำรุนแรงกับลูกไป อยากให้ลูกกลับมา เพราพคิดถึงลูกมาก มองไปทางไหนก็คิดถึงแต่ลูก ซึ่งถ้าลูกกลับมาจะขอไม่เอาอะไรเลยเพราะทั้งชีวิตตนก็มีหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่มีตั้งหลายหลัง รถตั้งหลายคัน ขอเพียงอย่างเดียวให้ลูกกลับมาและจะไม่เอาอะไรคืนจากลูกเลยสักอย่าง พร้อมกับย้ำด้วยว่า ตนกับเสก โลโซ จะช่วยให้ลูกรอดพ้นจากคนไม่ดี เพราะตอนนี้ลูกไม่หลงเชื่อคนไม่ดีที่เขาพูดอะไรก็จะคล้อยตาม เหมือนกับตอนนี้ลูกตกอยู่ในอันตราย ตนต้องช่วยลูกออกมาให้ได้
ทั้งนี้ กานต์ - วิภากร ยังได้พูดถึงอาการป่วยโรคซึมเศร้าด้วยว่า เมื่อวานนี้ตนก็ได้ไปหาแพทย์ ซึ่งแพทย์ก็ให้ยามาทาน พร้อมกับชูหลักฐานใบรับรองแพทย์ว่าตนป่วยจริงและได้ไปหาหมอมาจริง ซึ่งวิธีการรักษาทางแะทย์ก็ได้ให้ยามาทานและนัดตรวจอีกครั้งใน 3 สัปดาห์ข้างหน้า
ย้อนเวลาไปส่องโพสต์ กานต์ วิภากร ได้โพสต์ข้อความ เผยว่า ตนเองมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อยากให้ลูกๆ มารับไปรักษาตัว
จับตาโพสต์ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา “กานต์ วิภากร” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมล่าสุด ใจความระบุไว้ว่า
..
สิ่งเดียวที่มี..นั้นก็คือรักยิ่งใหญ่ที่ให้เธอ..แต่วันนี้เรา..ไม่ควรพบกันเพราะฉัน…ไม่ดี..!"
"รับการรักษาแล้วนะ..ครั้งที่ 1 เดี๋ยวแม่ก็หายแล้วครับ..แม่จะเคร่งครัดทุกอย่างตามหมอสั่ง จะได้หายเร็วๆ จะได้พบลูกเร็วๆ รอแม่ด้วยนะครับ เดี๋ยวแม่ก็หาย กลับไปเป็นแม่ที่ใจดี ปกป้อง คุ้มครองลูก เป็นนางฟ้าของลูกเหมือนเดิม เป็นแม่คนเดิมที่ลูกเคยบอกว่า "ตอนนั้น..แม่เป็นฮีโร่ของเสือเลย", "เสือเคยรักแม่..แม่เป็นฮีโร่ของเสือ"
"บรรยากาศระหว่างการสนทนากันช่างอบอุ่น คุยกันหลายชม คุยกันยิ้มแย้มสดใส เหมือนมีความสุข "แต่ความหมาย..แสนเจ็บปวด" คุยกันอยู่นานหลายชม. ไม่มีความตึงเครียด มีแต่คำพูดที่อ่อนโยนระหว่างเรา และรอยยิ้มของเรา คุยไปยิ้มไป แต่ข้างในแสนปวดร้าว คล้ายกับนั่นคือการบอกลา แต่ไม่กล้าพูดกันตรงๆ ระบายความในใจและสุขทุกข์ที่เรามีให้กัน ฝ่าฟันกันมาอย่างสงบ มันคือสัญญาณให้ผู้เป็นแม่ทำใจและเตรียมใจ ว่าลูกจะไม่ได้อยู่กับแม่แล้วนะ..น้ำตาตกใน.. แล้วแม่ก็พูดก่อนที่เสือจะเดินออกไปจากห้องแม่"
"เสือ..เสือไม่ได้เคยรักแม่หรอก ส่วนลึกในใจเสือรักแม่เหมือนเดิม แค่เสือไม่รู้ตัว..จริงๆ นะ แม่รู้…" แล้วแม่ก็หัวเราะ "ก็แค่คำพูดหลอกตัวเองของผู้เป็นมารดา ใบหน้าเสือก็ยิ้มนิดๆ เหมือนทุกครั้ง ลูกแม่…"
หลังก่อนหน้านี้ ไม่กี่วัน "กานต์ วิภากร" โพสต์ภาพกับ "เสก โลโซ" ขณะกำลังไหว้พระ ทำบุญ พร้อมเขียนข้อความว่า "น้ำตาที่ไหลริน กับเสียงสะอื้นไห้ อย่างทุกข์ระทม ทุกวันตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา พ่อต้องคอยปลอบตลอดเวลา และไม่รู้จะทำยังไง บ่อยครั้งที่ทะเลาะกัน เรื่องเลวร้ายนี้ พ่อจะเศร้าเสียใจ และแอบถ่ายรูปส่งไปให้พวกเขา "แม่ร้องไห้คิดถึงเสือกวางทุกวันเลย" แต่พวกเขา บอกถ้าคุยเรื่องแม่ ไม่คุย
เมื่อคืนวานนี้ ร้องไห้ ตั้งแต่ ตี 2 - ตี 5 ครึ่ง ตื่นขึ้นมา ร้องไห้อีก 1 ชั่วโมง แต่พยายามหยุดร้องไห้ได้ แสนรันทดชีวิตตัวเอง ร้องจะเป็นจะตาย จะฆ่าตัวตาย จะไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้เด็กๆมาอยู่ในบ้านนี้ กานต์ไปอยู่คนเดียวได้ แต่เสกไม่ยอม ถ้าพวกเขาต้องการให้กานต์กับเสกพรากจากกัน ให้เสกทิ้งกานต์ แล้วเขาจะได้ไม่ผิดหวังในตัวพ่อ กานต์ก็ยินดี
ให้อยู่ดูแลพ่อและน้อง ยินดีจากลา คุยกันหลายรอบแล้วเรื่องนี้ ยังไงเขาก็ไม่ยอม เรา 2 คนร้องไห้ด้วยกันบ่อยครั้ง เสกขอโทษกานต์ ร้องไห้หนัก น้ำตาผู้ชาย เขาพูด และร้องไห้สะอึกสะอื้น "ฉันผิดเอง ฉันเลี้ยงลูกไม่เป็น ฉันขอโทษ" กอดกันร้องไห้ รันทดเหลือเกิน ทุกอย่างคือเรื่องจริง เบื้องหลังของ Sek Loso & กานต์ ขอให้เรื่องเลวร้ายนี้ จงเป็นวิบากกรรมสุดท้ายของครอบครัวเรา เราเริ่มก้าวข้ามไปได้บ้างแล้ว ขอให้ความสุขเกิดขึ้นกับเราด้วย มันเป็นความเครียดสะสมและพลังลบ ซึมเศร้า อารมณ์ไม่นิ่ง เหมือนคนบ้า
เมื่อคืน บอกเสกให้พาไปส่งสมเด็จเจ้าพระยาหน่อย ก็ไม่พาไป ลูกๆต้องการแบบนั้น ก็จะไปสมเด็จให้ตามคำขอ หมดคำพูดแล้ว ขอโทษเพื่อนๆที่ทำให้รำคาญกับเรื่องวุ่นวายนี้ ที่ไม่จบสักที ขอโทษ..ที่ไม่เคยดี..เป็นแค่คนๆเดียวที่รักเธอ ผิดที่ฉันนั้นดูแลเธอไม่ได้ TT"