จากกรณีข่าวที่เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากวานนี้ (18 ส.ค.) หลังจากดาราสาวชื่อดัง "พิ้งค์กี้ - สาวิกา ไชยเดช" ถูกศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ไม่ให้ประกันตัวในคดี แชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่ถูกทาง พนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้องพร้อมพวกรวม 19 คน ทำให้ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวเข้าเรือนจำ
“เนชั่นออนไลน์” พาไปรู้จักประวัติ “พิ้งค์กี้ สาวิกา” จากจุดเริ่มต้นสู่วันเข้าสู่เรือนจำ
“พิ้งค์กี้ - สาวิกา ไชยเดช” เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ปัจจุบันอายุ 36 ปี มีเชื้อสายไทย, อังกฤษ, จีน, มอญ และปากีสถาน จบปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา
เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ได้รับการชักชวนโดยบังเอิญจากแมวมอง ขณะเดินเล่นกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง โดยเริ่มจากการถ่ายโฆษณา มีผลงานแรกคือ โซนีไตรนิตรอน และมีผลงานอีกหลายโฆษณา เริ่มงานละครทางช่อง 3 เรื่อง "ไฟในดวงตา" รับบทเป็นลูกของจันทร์จิรา จูแจ้ง หลังจากนั้นมาเล่นละครกับทางช่อง 7 เรื่องแรกคือ "วันนี้ที่รอคอย" ส่วนละครที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักคือ “ดาวพระศุกร์” รับบทเป็นดาวพระศุกร์ตอนเด็ก
ต่อมามีผลงานเพลงในปี พ.ศ. 2543 สังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ออกอัลบั้มเพลงแนวป็อป วง "บั๊ก บันจี้" (Bug Bunji) กับเพื่อนอีก 3 คน คือวนัสนันท์ ธรรมบูรณะวงษ์, ธัชชา พุ่มอ่อน และเจนนิเฟอร์ ชวโนวานิช
พ.ศ. 2544 สาวิกากลับมาเล่นละครเรื่อง "ปิ่นไพร" จากนั้นมีผลงานเรื่อง "กษัตริยา" รับบทมณีอินทร์ มเหสีของพระเอกาทศรถ และยังมีละคร "น้องเหมียวเขี้ยวเพชร"
“พิ้งค์กี้” เจอมรสุมที่เรียกว่าลูกใหญ่ในวงการบันเทิงจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกับกรณีเรื่องความสัมพันธ์กับ เป๊ก - สัญชัย เองตระกูล” สามีนางเอกรุ่นพี่ “ธัญญ่า - ธัญญาเรศ เองตระกูล” เรียกได้ว่าเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตให้พูดถึงกันเป็นเวลาหลายเดือน จากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอหายหน้าไปจากวงการบันเทิง และถูกสื่อมวลชนตั้งฉายาให้ว่า "อีพิ้งคนเริงเมือง" และ "ส่าหรีลี้รัก" กระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 “พิ้งค์กี้” และ “ธัญญ่า” ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในงาน "เที่ยวให้สุด ปักหมุดแดนใต้" ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้งสองกล่าวว่าได้อโหสิกรรมต่อกันและไม่มีเรื่องหมางใจกันอีก
ในปี พ.ศ. 2553 เธอมีผลงานในวงการภาพยนตร์บอลลีวูดระยะหนึ่งคือเรื่อง Markandeyan จนในปี พ.ศ. 2555 เธอได้กลับมาแสดงละครไทยอีกครั้งรับบทนางเอกในละครเรื่อง ทองประกายแสด และพลิกบทบาท เป็นนางร้ายครั้งแรก ในละครเรื่อง มารยาริษยา และในปีพ.ศ. 2556 เธอได้เดินทางไปร่วมงานกับภาพยนตร์ของอินเดียเรื่อง Emo Gurram Egaravachu
เธอเคยแต่งงานกับสมรสกับอิทธิ ชวลิตธำรง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่านพัทยา เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557 ตามธรรมเนียมศาสนาอิสลาม แต่สามีมิได้เปลี่ยนศาสนา ภายหลังทั้งสองหย่ากันช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 โดยที่ไม่มีบุตรด้วยกัน
พิ้งค์กี้ กับคดี แชร์ลูกโซ่ Forex-3D ทางดีเอสไอ พบว่า พิ้งค์กี้ เคยมีภาพถ่ายร่วมกับ นายอภิรักษ์ ผู้บริหาร Forex-3D และพี่ชายของ พิ้งค์กี้ ก็เคยโพสต์ชวนลงทุน Forex-3D ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พิ้งค์กี้ และครอบครัว พบเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ Forex-3D ทำให้ พิ้งค์กี้ และครอบครัว ต้องนำเอกสารทางการเงินเข้ามาชี้แจงใช้เวลาในการสอบปากคำแต่เอกสารหลักฐานที่นำมายังไม่เพียงพอ ต้องนำมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกในภายหลัง กระทั่งวันที่ 3 มี.ค. 64 ทางดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา พิ้งค์กี้ และครอบครัวรวม 3 ข้อหา จนนำมาสู่การยื่นฟ้องไม่อนุญาตให้ประกันตัวพร้อมจำเลยรวม 19 ราย ในที่สุด