svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

อาลัยรำลึก "อิซเซ มิยาเกะ" ผู้กลั่นคำว่า "เสื้อผ้าเป็นมากกว่าแฟชั่น"

11 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อาลัยรำลึก "อิซเซ มิยาเกะ" จากไปในวัย 84 ปี เจ้าของฉายา “Prince of pleats” ผู้กลั่นคำว่า " เสื้อผ้าเป็นมากกว่าแฟชั่น"

11 สิงหาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อิซเซ มิยาเกะ (Issey Miyake) ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต แล้วในวัย 84 ปี จากโรคมะเร็งในตับ ที่โรงพยาบาลในโตเกียวเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา

 

โดย The Issey Miyake Group ออกแถลงการณ์สั้น ๆ ว่า “จิตวิญญาณที่มีพลังของ อิซเซ มิยาเกะ ถูกขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาอย่างไม่หยุดยั้งที่จะถ่ายทอดความสุขผ่านสื่อกลางของการออกแบบ ตามความปรารถนาของคุณมิยาเกะ จะไม่มีพิธีศพหรืองานรำลึก”

 

อิซเซ มิยาเกะ เริ่มตำนานแฟชั่น จากการศึกษา การออกแบบกราฟิก ที่มหาวิทยาลัยศิลปะทามะ ในโตเกียว และไปศึกษาเพิ่มเติมการออกแบบเสื้อผ้าที่ปารีส ซึ่งที่นี่ได้ทำงานร่วมกับ กี ลาโรช (Guy Laroche) และ ฮิวเบิร์ต เดอ จิวองชี่ (Hubert de Givenchy)นักออกแบบแฟชั่นชื่อก้องโลก

(Credit: planetcirculate.com)

เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “เมื่อผมหลับตา ผมยังคงเห็นสิ่งที่ไม่มีใครควรได้รับ ผมพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ที่จะรั้งมันไว้ข้างหลัง โดยเลือกที่จะคิดถึงสิ่งที่สร้างได้ ไม่ทำลาย และนำมาซึ่งความสวยงามและความสุข ผมเลือกสาขาการออกแบบเสื้อผ้า ส่วนหนึ่งเพราะเป็นรูปแบบที่สร้างสรรค์ ที่ทันสมัยและมองโลกในแง่ดี”

 

โดยเขาเกิดที่ฮิโรชิมาในปี 2481 ผ่านสงครามโลกด้วยวัยเพียง 7 ขวบ ได้เห็นและรับรู้ถึงความโหดร้าย ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงในเมืองขณะที่เขาอยู่ในห้องเรียน ซึ่งภาพจำเหล่านั้นยังติดตาและฝังใจ จนเป็นเหตุให้เขาลังเลที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในชีวิตครั้งนั้น เพราะไม่ต้องการที่จะถูกตราหน้าว่าเป็น “นักออกแบบที่รอดชีวิต จากระเบิดปรมาณู”

 

สร้างตำนานแฟชั่นอันลือลั่น จากนวัตกรรมใหม่ ด้วยผลงาน เสื้อผ้าพลีตที่ไม่ต้องรีด โดยในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เขาได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการจีบ ด้วยการห่อผ้าระหว่างชั้นของกระดาษ แล้วใส่ลงในเครื่องรีดร้อน โดยเสื้อผ้าจะมีรูปทรงเป็นจีบ และผ่านการทดสอบเสรีภาพในการเคลื่อนไหวของนักเต้น จนนำไปสู่การพัฒนาไลน์ผลิตในปี 1993 “Pleats, Please” นับเป็นงานฟิวเจอร์ริสติก ที่เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูแลรักษาง่าย สะดวกต่อการเดินทาง เมื่อพับแล้วจะเหลือเพียงชิ้นนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นเดรส เสื้อ กระโปรง กางเกง เวลาใช้แค่คลี่ออก สวมใส่โดยไม่ต้องรีด อันเป็นซิกเนเจอร์ของเขา จนได้รับฉายาว่า “Prince of pleats”

 

อาลัยรำลึก "อิซเซ มิยาเกะ" ผู้กลั่นคำว่า "เสื้อผ้าเป็นมากกว่าแฟชั่น"

ต่อมาปี 1994-1999 อิซเซ มิยาเกะ ออกไลน์สินค้าหลากหลายขึ้น โดยร่วมกับ นาโอกิ ทากิซาวา ผู้สานต่อธุรกิจของเขาทั้ง นาฬิกา น้ำหอม กระเป๋า ที่โดดเด่น เช่น กระเป๋า Bao Bao ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และคุ้นตาด้วยรูปสามเหลี่ยมเรซิ่นขนาดเล็ก ซึ่งได้รับการยกย่องในด้านวิศวกรรม และน้ำหอม L’Eau d’Issey ที่เปิดตัวในปี 1992 ที่ว่ากันว่าขายได้ทุก 14 วินาที

 

หลังจากอิ่มจากความสำเร็จ จึงขอเกษียณอายุในปี 1997 เพื่ออุทิศตนและวิจัยงาน ซึ่งงานออกแบบหลายอย่างของเขาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงคอลเล็กชั่นถาวรของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ที่ได้รับการประดับเป็น Commandeur de l’Ordre National de la Légion d’honneur

 

ตลอดระยะเวลา 52 ปี บนรางแมวเดิน อิซเซ มิยาเกะ ยังคงรักษาและยืนหยัดอย่างทรนง ในการต่อต้านเทรนด์แฟชั่น โดยอ้างถึงการออกแบบของเขาว่า เป็น “เสื้อผ้า” มากกว่า “แฟชั่น” รังสรรค์งานด้วยสไตล์ไฮเทคแต่ใช้งานได้จริงและสะดวก จนเป็นที่จดจำและจารึกไว้เป็นหนึ่งในตำนาน “แคทวอล์ค” โลก

 กระเป๋า Bao Bao อันโด่งดัง (Credit: isseymiyake.com)

 

logoline