“เมฆ วินัย” เผย ดีใจที่สุดได้ลูกสาวสมใจ แจงกำหนดคลอดกลางเดือนกันยายนนี้
เมฆ-วินัย ไกรบุตร เผยข่าวดี รู้สึกแฮปปี้มาก ท้องนี้ได้ลูกสาวสมใจ ยันอาการป่วยไม่ส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ ฝ่ายภรรยาคนสวยแอบเผยชื่อทายาทคนที่สามนามว่า “น้องเมิร์ช”
หลังจากนักแสดงชื่อดังมากฝีมืออย่าง พี่เมฆ - วินัย ไกรบุตร สร้างเซอร์ไพรส์สุดปังสนั่นวงการบันเทิงไทย ด้วยการออกมาประกาศข่าวดี ภรรยาสุดที่เลิฟ เอ๋ อรชัญญาช์ กำลังตั้งท้องทายาทคนที่สาม และมีกำหนดคลอดในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ท่ามกลางความยินดีของแฟนๆและเพื่อนพ้องในวงการทั่วหน้า
ล่าสุด “เมฆ - วินัย ไกรบุตร” นักแสดงคนดังพร้อมภรรยา ได้เปิดใจ ว่า ตนดีใจมากๆ งานนี้ ท้องนี้ได้ลูกสาวสมใจ ตั้งชื่อว่า “น้องเมิร์ช” พร้อมยืนยันว่าที่มีหลายคนแอบเป็นห้วง ขอยืนยันว่า อาการป่วย “ตุ่มน้ำพอง” นั้นไม่ส่งผลกระทบถึงลูกที่อยู่ในท้อง ตอนนี้ ทั้งครอบครัวเฝ้าตั้งตานับวันรอ ที่จะได้เจอหน้าลูกน้อยแล้ว ยืนยันว่าอาการตุ่มน้ำพองไม่ส่งผลกระทบต่อลูกใดๆ ทั้งสิ้น
“ไม่เกินวันที่ 15 กันยายนนี้ ลูกสาวจะคลอดครับ (ยิ้ม) ท้องนี้ผมแทบจะไม่ได้ดูแลภรรยาเลย กลายเป็นว่าคนท้องต้องมาดูแลผม และดูแลเรื่องธุรกิจด้วย ความรู้สึกแรกตอนที่รู้ว่าภรรยาตั้งท้องก็ไม่แปลกใจนะ เพราะว่าน้ำเชื้อผมดีอยู่ ผมแข็งแรง และผมตั้งใจอยากมีลูกสาวอีกคนนึง และก็ได้ลูกสาวจริงๆ ย้อนกลับไปช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคมปีที่แล้ว (2563) อาการป่วยผมดีขึ้นแล้ว 90 -95 เปอร์เซ็นต์ ผมเลยอยากมีลูก จริงผมอยากมีลูก 4 คน แต่ทีนี้ผมป่วย 2 ปี ก็เลยผิดแผน
ซึ่งอาการตุ่มน้ำพองไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการมีลูก ก็ดีใจมาก แต่ที่ไม่ได้บอกเพราะยังไม่หายป่วย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราเองร่างกายยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คือรอไม่ได้เพราะภรรยาผมอายุ 42 ปีแล้ว ก็คิดกันว่าถ้าลูกไม่มาปีนี้ก็จะไม่มีแล้ว ด้วยอายุของภรรยาครับ พอรู้ว่าลูกมาแล้ว ก็รีบไปหาหมอให้ตรวจเลือดผม ลูก ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์หมด ไม่มีปัญหาอะไร และก็มีหมอดูทักว่าลูกคนนี้จะมาเกื้อหนุนผม"
"ผมอยากมีลูก พอมีโอกาสก็รีบเลย คนเราก็มีแค่นี้แหละครับ มีความสุขอยู่กับลูก อยู่กับที่บ้าน มีงานทำ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ออกกำลังกาย ดูแลคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยเหลือสังคม ทำตัวให้มีค่ามากที่สุดก่อนตาย ก็แค่นั้นเองครับ ชีวิตไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกครับ ตอนนี้ที่ทำธุรกิจอยู่ครับ"
มาฟังความรู้สึกทางด้านคุณแม่ หรือพี่เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยาคนสวยของพี่เมฆก็เผยความรู้สึกว่า
“ท้องนี้ไม่ได้โฟกัสว่าท้องเลย มัวแต่ ไปโฟกัสแต่ว่าทำยังไงให้พี่เมฆหายป่วย ให้เขามีกำลังใจขึ้นมา เพราะช่วงนั้นความรู้สึกทางจิตใจเขาดาวน์ลง เพราะเขาเคยมีความรับผิดชอบ ดูแลครอบครัวมาตลอด พอวันที่เราท้อง เขากลับป่วย เขาก็เลยต้องได้กำลังใจเยอะๆ เราก็ทำทุกอย่างเหมือนเป็นคนปกติ ก็บอกพี่เมฆว่าให้ทำทุกอย่างเหมือนเดิม อย่าไปโฟกัสว่าเราท้อง เพราะเราไม่ได้ป่วย ผู้หญิงท้องก็ทำงานได้ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องให้กำลังใจเขาเยอะๆ ให้เขาฟื้นกลับมาเราที่สุด และมันก็เป็นอย่างที่เราคิด พี่เมฆก็ดีขึ้นเร็ว”