ศึกษาประวัติศาสตร์กรุงศรีฯ ตามรอยบุพเพสันนิวาส
ช่วงนี้ต้องบอกว่ากระแสละครเรื่องบุพเพสันนิวาสกำลังมาแรง และส่งผลดีทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์ไทยชอบแต่งกายชุดไทยกันมากขึ้น งานนี้ทางกรมศิลปากรได้ช่วยสนับสนุนและจัดโครงการดีๆ ให้ตามรอยแม่หญิงการะเกดพร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยในสมัยกรุงศรีฯอย่างลึกซึ้ง
ทางกรมศิลปากรได้จัดโครงการวัฒนธรรมสัญจร ตามรอยบุพเพสันนิวาส ศึกษาประวัติศาสตร์และวรรณกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา สำหรับสถานที่แรกที่กรมศิลปากรพาเดินทางไปก็คือที่ ป้อมเพชร ถือว่ามีความสำคัญที่สุด เนื่องจากทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกที่มาตรงมุมพระนครและเป็นเส้นทางการคมนาคมมีการติดต่อระหว่างโลกภายนอกกับชาวกรุงศรีอยุธยา
อย่างในละครบุพเพสันนิวาสได้นำเสนอให้เห็นว่ายุคสมัยนั้นกรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองค้าขายกับต่างชาติ วิถีชีวิตของคนในสมัยนั้นจะสัญจรกันทางเรือจริงๆ
ตามด้วยอีกหนึ่งสถานที่ที่ถูกกล่าวถึงในละครบุพเพสันนิวาส นั่นก็คือที่ วัดถนนจีน แต่เดิมเป็นชุมชนชาวจีน บริเวณหน้าวัดถนนจีนในอดีตจะอยุ่ติดกับตลาดน้อยที่แม่การะเกดไปสั่งทำกระทะหมูกระทะปัจจุบันเหลือเพียงซากพระปรางค์เพียงองค์เดียวให้ได้เห็น
ส่วนฉากที่เป็นห้องเรียนของนางเอกหลายคนคงจะคุ้นๆ มันคือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา บริเวณเรือนไทยยังมีเครื่องกรองน้ำโบราณจัดแสดงให้ได้ดูกัน ทำให้รู้ว่าคนสมัยกรุงศรีฯเริ่มมีการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกรองน้ำเหมือนอย่างที่ละครนำเสนอจริงๆ
และ 2 วัดยอดฮิตในขณะนี้ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปตามรอยบุพเพสันนิวาส นั่นก็คือ วัดพุทไธศวรรย์ ฉากที่นางเอกเดินเข้าประตูรอดพ้นเวทมนต์จากอาจารย์ชีปะขาวไปได้ และวัดไชยวัฒนาราม ที่ปรากฎอยุ่ในเรื่องบุพเพสันนิวาสหลายต่อหลายฉาก ซึ่งหลังจากกระแสละครบุพเพสันนิวาสเรตติ้งพุ่งแบบฉุดไม่อยู่ก็ส่งผลดีกับทุกฝ่ายทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ความเป็นไทย คนหันมาแต่งชุดไทยมากขึ้นเพราะชื่นชอบละคร จนนายอนันนต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากรถึงกับเอ่ยปากชม
ต้องบอกว่าละครบุพเพสันนิวาสถือเป็นละครแนวพีเรียดที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อแถมยังสนุกและเข้มข้นแฝงความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยสอดแทรกมาให้คนดูเข้าใจง่าย ทำให้คนไทยได้เปิดใจเรียนรู้และปฎิบัติตามจนส่งผลให้การท่องเที่ยวและการใช้ชีวิตของคนไทยดีขึ้นมาก