"นินิว" ไม่เสียดายเวลา หลังปิดฉากรัก 13 ปี "แบงค์ แคลช"
แบงค์ แคลช ยอมรับเลิก นินิว กฤติยา ปิดตำนานรัก 13 ปี จากกันด้วยดี ขอถอยหลังคนละก้าว เผยอยากให้ฝ่ายหญิงได้คนที่ดี มีเวลาให้
ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักมาราธอนที่คบหาดูใจกันมานานหลายปี สำหรับคู่ของนักร้องหนุ่ม แบงค์ ปรีติ หรือ แบงค์ แคลช กับแฟนสาว นินิว กฤติยา ที่บ่มรักกันมานานถึง 13 ปี จนหลายๆ คนได้แต่รอฟังข่าวดี อยากให้มีงานวิวาห์ แต่ทว่าล่าสุด (19 กันยายน 2559) ก็มีข่าวออกมาว่า ทั้งคู่แยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน นินิว โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว หลังมีข่าวเลิกราของทั้งคู่ออกมาว่า ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา แต่เสียดายเวลาที่ไม่ได้แก่ชราไปด้วยกันมากกว่า พร้อมทั้งขอบคุณทุกกำลังใจ ทั้งจากครอบครัว แฟนคลับแบงค์ และเพื่อนๆ โดยข้อความในอินสตาแกรมของนินิว ระบุว่า ...
"ก็ว่าจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบเงียบๆ อะนะ แต่ในเมื่อวันนี้มีข่าวออกมาแล้ว แน่นอนว่ามันต้องกระตุ้นหัวใจแน่นอน" ขอบคุณญาติๆ เพื่อนๆ พี่ น้อง มิตรสหาย รวมถึงน้องๆ แฟนคลับของพี่แบงค์ด้วย ที่แสดงเป็นห่วงและถามไถ่ด้วยข้อความที่ถนอมน้ำใจกันที่สุดๆ จริงๆ เรื่องนี้มันเกิดมา 4 เดือนเต็ม ก็พยายามอยู่ได้และอยู่กับความจริงที่เราตัดสินใจไปแล้ว แต่ภาพในฝันของเราที่เราจะแก่ไปด้วยกัน เดินจูงมือกันยังจะอยู่ในใจนิว แต่นั้นเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งอาจจะมีตัวแปรมากมาย คบกันมา 13 ปีกว่า มันไม่ง่ายหรอกค่ะที่จะลบกันออกจากใจสำหรับนิวนะ แล้วก็ไม่ง่ายที่จะเปิดใจรับคนใหม่ได้ในเร็วๆ นี้ ตลอดเวลา 4 เดือนที่ผ่านมานิวก็โอเครขึ้นตามลำดับค่ะ แต่พอมาถึงวันนี้วันที่ตอกย้ำให้ทุกคนได้รับรู้ แน่นอนว่าหัวใจมันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มฮวบเลย ยอมรับค่ะว่าใจหาย แต่ก็เตรียมใจไว้อยู่แล้วด้วย Strong!! ค่ะ
หลายคนบอกว่าเสียดายเวลาวะ..แต่นิวไม่เคยเสียดายเวลา 13 ปีเลยนะ เพราะมันคือช่วงเวลาที่ดีค่ะหรือดีที่สุด แต่นิวจะเสียดายเวลาในอนาคตมากกว่าถ้าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน"
ฟากหนุ่ม แบงค์ ปริติ หรือ แบงค์ แคลช ก็เผยว่า แยกทางกันมาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกใคร เพราะเราคบกันมา 13 ปี ซึ่งการจะบอกใครว่าเราแยกทางกันมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ต้องใช้เวลาให้แน่ใจก่อนว่าเราแยกทางกันแล้วจริง ๆ ไม่ชอบไปบอกว่าเลิกกัน แต่แล้วสักพักก็กลับมาคืนดีกันอีก แต่ในขณะเดียวกันเราก็แฟร์กับเขาด้วย เผื่อเขาได้เจอคนใหม่ที่ดีกว่าผม จริงๆ เรารักกันมากถึงขนาดที่ว่า เราเห็นเขามีแฟนใหม่แล้วเราไม่เจ็บ ผมรักเขาแบบนั้น ก็ยินดีถ้าเขาเจอคนดี ๆ มีคนใหม่ที่มีเวลาให้ ถามผมก่อนก็ได้ว่าดีหรือเปล่า ผู้ชายดูกันออกอยู่แล้ว อยากให้เขาเจอสิ่งที่ดีที่สุด
ส่วนสาเหตุที่ต้องแยกทางกัน หนุ่มแบงค์ บอกว่า มันเกิดจากปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งชีวิตคู่ทุกคู่ต้องเจออยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก แต่เราคบกันมา 13 ปี มันก็มีหลายๆ ปัญหารวมกัน คบกันมานาน มีความเข้าใจให้กัน ทว่าในอีกมุมหนึ่งการให้เกียรติกันอาจลดน้อยลง มองข้อเสียของกันและกันมากขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าบางอย่างมันรักษาไม่หาย ซึ่งเราก็คิดว่าลองแยกกันดูว่าจะเป็นยังไง ถอยคนละก้าว บางครั้งการหันหลังให้กันอาจจะทำให้เราไปเจอสิ่งที่ดีกว่า เป็นการเลิกกันแบบไม่มีใครผิด
ถ้าถามว่าชีวิตหลังจากนั้นเป็นอย่างไร หนุ่มแบงค์ บอกว่า รู้สึกเคว้งๆ เหมือนกันที่หันไปแล้วไม่มีเขา ยังรู้สึกงงกับการใช้ชีวิตคนเดียวมันต้องทำยังไง เพราะเราคบกันมานานมาก แต่การอยู่คนเดียวมันก็มีข้อดี ทำให้เรามองเห็นตัวเองได้มากขึ้น ส่วนเขาก็ไปทำธุรกิจของคุณแม่เขากับเป็นที่ปรึกษาเสริมความงามที่เกาหลี เขาเองก็มีแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วการเลิกกันเราเสียใจกันทั้งคู่ แต่การเลิกกันของเรา เราแยกกันด้วยความรัก มีความหวังดีให้กันเสมอ ผมก็ยังติดตามชีวิตเขาอยู่ ยังดูว่าเขาทำอะไรเป็นอย่างไรบ้าง เราไม่ได้เกลียดกัน ส่วนโอกาสคืนดีนั้น ไม่รู้เลยจริงๆ ตอนนี้เอาเรื่องงานเป็นหลักก่อนดีกว่า
ขอขอบคุณภาพจาก @bankkcas / @naraninew