นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation STORY ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,405 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,413 จุด แนวรับแรกที่ 1,377 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,366 จุด ประเด็นต่างประเทศที่ติดตามคือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ตลาดจะติดตาม Dot Plot เพื่อพิจารณาช่วงเวลาที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้รายงานเศรษฐกิจระยะหลังที่อ่อนตัว คาดว่าจะหนุนภาวะ Search for Yield ได้ ขณะที่จีนประเมินว่ารายงานเศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนปัจจัยภายในแรงหนุนหลัก คือ งบประมาณปีนี้ที่เข้าสู่กลไกพิจารณาวาระ 2 และ 3 ของ ส.ส. ก่อนเบิกจ่ายได้ ต้นเม.ย. หนุนไทยฟื้นเร่งจากภาพต้นปีที่ภาคบริการเด่น
สำหรับหุ้นเด่น 1. หุ้นภาคบริการ AOT, CPALL, CPAXT, BJC 2. กลุ่มได้ประโยชน์งบประมาณรัฐฯ เดินหน้า เน้น STEC, CK, BE8, DOHOME, GLOBAL 3. หุ้นอิงจีน เน้น IVL, PTTGC, SCGP
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย
• 19 มี.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ก.พ.ของสหรัฐฯ ตลาดคาด +7.4% m-m
• 19 มี.ค. ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ โดย MUFG มองมีโอกาสเห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 10 bps สู่ 0% vs ตลาดคาดคงดอกเบี้ยนโยบายติดลบ
• 21 มี.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ก.พ. ของสหรัฐฯ คาด -2.0%m-m
• 21 มี.ค. ติดตาม Flash PMI ภาคผลิต มี.ค. คาด 51.8 จุด จากเดิมอยู่ที่ 52.2 จุด และ Flash PMI ภาคบริการ มี.ค. คาด 52 จุด จากเดิมอยู่ที่ 52.3 จุด
• 21 มี.ค. (เช้า 22 มี.ค. ไทย) ผลการประชุมเฟด เดือน มี.ค. ตลาดให้โอกาส 99% เฟดคงดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดตลาดให้ความสำคัญต่อ Dotplot ใหม่
• 21 มี.ค. ติดตาม Flash PMI ภาคผลิต มี.ค. ของยุโรป
• ติดตามรายงายดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีนเดือน ก.พ. ได้แก่ 1. ยอดผลิตภาคอุตสาหกรรม คาด 5.2%ytd y-y 2. ยอดค้าปลีก คาด +5.0%y-y และ 3. การลงทุนในสินทรัพย์คงทน คาด +3.2%ytd y-y 4. การลงทุนภาคอสังหา คาด -8%y-y
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ
• IVL(TP-26.5): ลุ้นจีนรายงานเศรษฐกิจสัปดาห์หน้าเร่งขึ้นหนุน+ใกล้เข้าฤดูกาล
• STEC(TP-12) : เร่งขึ้นจากความคืบหน้ากระบวนการพิจารณางบประมาณปี 67
• BE8(TP-47): เร่งขึ้นจากความคืบหน้ากระบวนการพิจารณางบประมาณปี 67
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ Nation STORY ว่า การเคลื่อนไหวของ US Bond Yield Dollar Index ราคาทองคำ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาสะท้อนถึงความกังวลดอกเบี้ยอีกครั้งของนักลงทุน หลังจากรายงานเงินเฟ้อทั้ง CPI , PPI สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์
โดยสัปดาห์หน้านักลงทุนจะให้น้ำหนักกับผลประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย การประชุมครั้งนี้ค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากเป็นการประชุมรายไตรมาสที่จะเปิดเผยทั้งเส้นทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไป ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ
โดยนักลงทุนจะรอติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนคำพูดหรือไม่ หลังจากก่อนหน้า ได้แถลงต่อสภาคองเกรสไว้ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยแต่ยังไม่มั่นใจว่าจะช่วงไหน
แต่หลังจากนั้นก็เริ่มเผชิญการรายงานตัวเลขที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจยังกดไม่ลง ดังนั้นหากประธาน FED กลับมาส่งสัญญาณหรือปิดโอกาสลดดอกเบี้ยที่น้อยลงจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นและทุกๆสินทรัพย์
ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ประเมินว่าการประชุมสัปดาห์นี้จะคงดอกเบี้ยด้วยโอกาส 98% และคงต่อเนื่องในการประชุมเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตามประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิ.ย. ด้วยความน่าจะเป็น 55%
ทั้งนี้คาดว่าประธาน FED มีแนวโน้มจะส่งสัญญาณเข้มงวดมากขึ้นหากเทียบกับช่วงของแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส เพราะเงินเฟ้อที่ยังไม่ลงสู่เป้าหมายของเฟดและ PPI รายงานสูงกว่า นักวิเคราะห์ประเมินอย่างมีนัยยะ ซึ่งอาจจะส่งผ่านต้นทุนตรงนี้ออกไปยังผู้บริโภคกดดันเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเร่งตัว
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ รอติดตาม 1. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนในวันจันทร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 5.3%YoY , 5.6%YoY ตามลำดับ
2.ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.5 ล้านหลังคาเรือน 1.43 ล้านใบอนุญาต หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์มองเป็นบวกมากกว่า
3. ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg ประเมินไว้ 3.9 ล้านหลังคาเรือน
ส่วนสัปดาห์หน้าประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,350 – 1,400 จุด เชิง กลยุทธ์การลงทุนหากปรับฐานยังมองเป็นโอกาสสะสมด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจเน้นที่หุ้น Domestic Play ประกอบไปด้วย