
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ณ รีสอร์ตมาราลาโก รัฐฟลอริดา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค. 68) โดยระบุถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม พร้อมกล่าวอ้างว่า "ฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มเรื่องนี้กับกัมพูชา"
"Thailand is starting to shape up. You know, they started with Cambodia, they started up again."
"ไทยเริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยแล้ว คุณรู้ไหม...พวกเขาเริ่มกับกัมพูชา พวกเขาเริ่มมันขึ้นมาอีกครั้ง" โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าว
คำพูดดังกล่าวของทรัมป์ถูกสื่อมวลชนกัมพูชานำไปรายงานต่อทันทีเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝั่งตนเอง ในขณะที่ทรัมป์ยังคงเดินหน้า "เคลมผลงาน" ว่าตนเองเป็นผู้หยุดยั้งสงครามมาแล้วกว่า 8 ครั้งทั่วโลก รวมถึงการไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาที่เขามองว่ารัฐบาลวอชิงตันสามารถจัดการให้สงบลงได้
ก่อนหน้านี้ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในลักษณะเดียวกันนี้มาโดยตลอด พร้อมกล่าวว่า หากทรัมป์ต้องการหยุดยิงจริง "ก็ควรไปบอกทางกัมพูชาให้หยุดก่อน เพราะไทยไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มยิงกัมพูชา" โดยยืนยันว่าการใช้กำลังทางอากาศ (F-16) และปืนใหญ่ของไทยเป็นการตอบโต้อย่างชอบธรรมเพื่อรักษาอธิปไตย หลังจากกัมพูชาระดมยิงจรวด BM-21 เข้าใส่พื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาลในฝั่งไทยจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ท่ามกลางสงครามคำพูดของผู้นำระดับโลก ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้มีมติเร่งด่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ไทยและกัมพูชาจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 นี้ เพื่อฟื้นฟูข้อตกลงหยุดยิงที่ทรัมป์และนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซียเคยเป็นพยานร่วมกันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะครั้งนี้พุ่งสูงกว่า 80 ราย และมีชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยสงครามกว่า 5 แสนคน ขณะที่กองทัพไทยยังคงเตรียมพร้อมระดับสูงสุดในพื้นที่จันทบุรีและศรีสะเกษ เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจปะทุรุนแรงขึ้นอีกหากการเจรจาไม่เป็นผล