หุ้น MGI บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กลับมาซื้อขายคึกคัก หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปลดเครื่องหมาย "P" หรือ Pause เนื่อง จากที่ผ่านมาพบว่ามีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ จนเป็นเหตุให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย Level 3
ซึ่งการซื้อขายวันนี้พบว่า ราคาหุ้นต่ำสุดอยู่ที่ 35.75 บาท สูงสุด 44 บาท ราคา ณ เวลา 12.42 น. อยู่ที่ 41 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ18.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300.15 ล้านบาท
ขณะที่นายณวัฒน์ อิสรไกรศีลประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการปี 2566 มีกำไรสุทธิกว่า 119.25 ล้านบาท เติบโต 149.22% จากปีก่อน
เนื่องจากธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าของ บริษัทผ่านช่องทางจําหน่าย ใหม่คือ TikTok จึงส่งผลทําให้ตัวแทนขายสินค้าหลายรายเห็นว่าสินค้าของบริษัทฯ ขายง่ายและขายได้ จึงดึงสินค้าในตะกร้าบริษัทฯ ไปขายเป็นจํานวนมาก บริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงธุรกิจสื่อและบันเทิง และ ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน มีการเติบโตขึ้นเมื่อ เปรียบเทียบกับปี 2565
บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 5 ประเภทดังนี้
1. รายได้จากการขายสินค้า ของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.1 สินค้าอุปโภค มีรายได้จำนวน 61.15 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 149.35 ล้านบาท ในงวดปี 2566 เพิ่มขึ้น 170.10% จากไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้น 70.96% จาก งวดปี 2565
1.2 สินค้าบริโภค มีรายได้จำนวน 17.00 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 105.26 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 319.75% จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้น 332.81 % จากปี 2565
โดยรายได้จากการขายสินค้าบริษัทฯมียอดสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทฯได้มีการจัดแคมเปญให้ผู้เข้าประกวดนางงามมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (MGT2023) แข่งขันกันขายสินค้าของบริษัทฯ ผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม (Platform) ในช่องทาง TikTok และบริษัทฯ
2. รายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิง จำนวน 30.66 ล้านบาท ในงวด ไตรมาส 4 ปี 2566 จำนวน 112.74 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 12.76% จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ64.51 % จากปี 2565 เนื่องจาก บริษัทฯ มีการจัดงาน ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ต้นปี 2566
3. รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 34.68 ล้านบาท ในงวดไตรมาส4 ปี 2566 และ 134.66 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 56.36 %จากงวดไตรมาส4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้น 115.46% จากปี 2565
4. รายได้จากธุรกิจการจัดประกวด นางงาม มิสแกรนด์ 85.05 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18.69% จากงวดปี 2565 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากผู้สนับสนุน(Sponsor) และรายได้ค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น มากกว่าปี 2565
5. รายได้จากธุรกิจการเช่าช่วง MGI Hall ปี 2566 จำนวน 24.31 ล้านบาท
โดยผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรกประกอบด้วย
1. นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ถือหุ้น 90,000,000 หุ้น สัดส่วน 42.86%
2. นายรัชพล จันทรทิม ถือหุ้น 59,999,800 หุ้น สัดส่วน 28.57%
3. บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 6,550,000 หุ้น สัดส่วน 3.12%
4. นาย พีรเจต สุวรรณนภาศรี ถือหุ้น 6,160,000 หุ้น สัด ส่วน 2.93%
5. นายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญถือหุ้น 2,450,000หุ้น สัดส่วน 1.17%
6.นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ถื อหุ้น 2,409,300 หุ้น สัดส่วน 1.15%
7. นายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้น 2,400,000หุ้น สัดส่วน 1.14%
8. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 1,969,137 หุ้น สัดส่วน 0.94%
9. น.ส. ชาล็อต ออสติน ถือหุ้น 1,950,000 หุ้น สัดส่วน 0.93%
10. น.ส. อิงฟ้า วราหะ ถือหุ้น 1,900,000 หุ้นสัดส่วน 0.90%
นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปัน ผลเป็นเงินสด สำหรับปี 2566 เพิ่มเติมในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 31,500,000 บาท ดังนั้น เมื่อรวมเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลจำนวนหุ้นละ 0.20 บาท ทำให้เงินปันผลจ่ายสำหรับปี 2566 มีจานวนทั้งสิ้นหุ้นละ 0.35 บาท ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล
ซึ่งกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกาไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสารองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏชื่อ ณ วันที่กำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปัน ผลในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้การให้สิทธิรับเงินปันผลดังกล่าวของบริษัทยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นโดยบอร์ดอนุมัติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ขณะที่กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2567