svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

หุ้นไทยไซด์เวย์อัพ ! เปิดโพยหุ้นเด่น  ตัวไหนน่าซื้อ

โบรกประเมินหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งขึ้น แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น จากภาคการผลิต และส่งออก ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ในภาวะ Goldilocks เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง  เกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ -ไต้หวัน ส่องหุ้นเด่นตัวไหนน่าลงทุน

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Onlineว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า แกว่งไซด์เวย์อัพ  เป็นผลมาจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อนไปทางทรงตัว หนุนตลาดเชื่อมั่นสหรัฐฯอยู่ในภาวะ “Goldilocks”   ซึ่งเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ฝั่งไทยความเชื่อมั่นแนวโน้มเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทั้งด้านผลิตและส่งออก คาดว่าการตัวเลขส่งออกไต้หวัน และเกาหลีใต้จะฟื้นตัว

สำหรับหุ้นนำตลาด 1. กลุ่มวงจรดอกเบี้ยขาลงหนุน (GPSC, BGRIM, JMT, SAWAD) 2. กลุ่มภาคผลิตโลกฟื้น (KCE, IVL, SCGP, PTTGC,  SJWD, MENA, WICE)  3. หุ้น  High Growth  หรือเติบโตในปีหน้า (SHR, TU, SJWD, IVL, CPALL, DOHOME, AOT, CPALL, BE8)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย

•   19 ธ.ค. ยอดขอสร้างบ้านใหม่ พ.ย. ของสหรัฐตลาดคาด 1.36 ล้านหลัง -0.7%m-m 20 ธ.ค. ยอดขายบ้านมือสอง พ.ย. คาด 3.77 ล้านหลัง -0.5%m-m

•   19 ธ.ค. ประชุม BOJ คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ -0.1%

•  20 ธ.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. ของสหรัฐฯ ตลาดคาด 103.4 จุด จากเดิมอยู่ที่  102•   20 ธ.ค. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าส่งออก พ.ย. ของไต้หวัน
•  21 ธ.ค. GDP 3Q23 รายงานครั้งที่ 3  คาด +5.2% เท่าครั้งก่อน

•  21 ธ.ค. ยอดส่งออก&นำเข้า 20 วันแรก ธ.ค.ของเกาหลีใต้  

 •  22 ธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ พ.ย. คาด 6.88 แสนหลัง -1.3%m-m

•  22 ธ.ค. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน พ.ย. คาด +2.6%y-y เดือนก่อน -5.4%, รายได้และการใช้จ่ายภาคเอกชน พ.ย. คาด +0.4%m-m และ +0.2%m-m (prev. +0.2%m-m และ +0.2%m-m)

•    ธนาคารกลางจีนมีโอกาสดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในช่วงปี 2024 (คาดอย่างเร็วคือ ต้น 1Q24) คาดหมายจะเห็นมาตรการ QE

•    ติดตามการประกาศ Rebalance SET50 รอบ 1H24 คาดหุ้นเข้า : KCE หุ้นออก : TLI  

•   SET EPS: กำไรตลาดอิง BB อยู่ที่ 83.7 บาท จากเดิมอยู่ที่  83.8 บาท กลุ่มปรับขึ้น คือ ขนส่ง แพ็คเกจจิ้ง อาหาร กลุ่มปรับลง คือ ปิโตรเคมี วัสดุ อสังหาฯ

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ  

•  GPSC (TP65):  ได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง หนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง

•  CPALL (TP76) : หุ้น High Growth ปี 2024 +ได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง

•  IVL(TP30): หุ้น High Growth ปี 2024 ผสานลุ้น Upside เพิ่มเติมหากจีนฟื้นเร่ง

หุ้นไทยไซด์เวย์อัพ ! เปิดโพยหุ้นเด่น  ตัวไหนน่าซื้อ

 

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ากับ Nation Online ว่า วันศุกร์สัปดาห์ก่อนฝั่ง EU ได้รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) พบว่าค่อนข้างย่ำแย่ (ต่ำกว่าคาดการณ์และต่ำกว่าระดับ 50) บ่งชี้ถึงการหดตัวทั้งภาคผลิตและภาคบริการ

ขณะที่สหรัฐฯก็ได้รายงานเช่นเดียวกันพบว่าภาคผลิตแย่กว่าคาดและอยู่ที่ระดับ 48.2 แต่ภาคบริการสูงกว่าคาดและอยู่ที่ 51.3 ซึ่งนักลงทุน ก็ตอบรับด้วยการผ่อนคลายความเห็นนโยบายการเงิน สะท้อนผ่าน US Bond Yield ที่ปรับลงต่อเนื่อง ด้าน CME FED Watch ให้น้ำหนักระดับสูง 89% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมและอีก 10% ให้น้ำหนักลดดอกเบี้ย

ส่วนสัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเพื่อพิจารณาทิศทางดอกเบี้ยของ FED อาทิ 1. ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 1.46 ล้านใบอนุญาต และ 1.36 ล้านหลังคาเรือน ซึ่งจะรายงานในวันอังคาร

2. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดขายบ้านมืองของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 104 และ 3.77 ล้านหลังคาเรือน (รายงานในวันพุธ)

3.เงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ในวันศุกร์ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.8%YoY และ Core PCE ที่ 3.3%YoY , 0.2%MoM นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ เม.ย. 21 ที่เงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่า 3% มองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ระยะถัดไปประเมินปัจจัยที่จะมีผลมากกว่านโยบายการเงินคือทิศทางเศรษฐกิจ อนึ่งการปรับลงของเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสะท้อนถึงการอ่อนแรงทางอุปสงค์ในทางอ้อม ซึ่งปัจจุบันดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ อย่าง PMI ยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ

สำหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์ นี้ไม่มีอะไรมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างสำคัญอย่างการค้าระหว่างประเทศจะอยู่ในสัปดาห์ถัดไป โดยติดตามเพียงการซื้อสุทธิของต่างชาติ ซึ่งในสัปดาห์ก่อนหลังเสร็จสิ้นการประชุม FED พบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิติดต่อกัน 2 วันทำการรวมแล้ว 6.6 พันล้านบาท เชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะซื้อสุทธิต่อเนื่องหนุนจากเงินบาทที่กำลังเข้าสู่แนวโน้มแข็งค่า

อย่างไรก็ตาม มองหุ้นขนาดใหญ่จะน่าสนใจต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์ก่อนหุ้นขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวโดดเด่นได้แก่ GPSC ,CRC, KBANK, BBL, CPALL, CPN, AOT มองเป็นชุดหุ้นที่น่าสนใจ สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวกรอบ 1,380 – 1,420  จุด

ด้านกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะทยอยสะสมเช่นเดิม แม้ดัชนีจะปรับขึ้นมาบ้างแต่ระดับ Valuation ยังไม่แพง เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ

- ค้าปลีก (BJC, CRC ,CPALL ,HMPRO)

- ท่องเที่ยว (AOT ,CENTEL, MINT)

- ศูนย์การค้า (CPN)

- ธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, KTB ,SCB)

- สื่อสาร (ADVANC)