svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

คนรายได้สูงลุ้นสิทธิ์ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

26 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จุลพันธ์" โยนบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่สัปดาห์หน้า เคาะแจกเงิน 10,000 บาท ยกเหตุผลช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มคนเปราะบางตามข้อเสนอของธปท.-สศช. หลังจากเศรษฐกิจ-การบริโภคฟื้นตัว ส่วนคนมีรายได้สูงยังต้องลุ้น ขณะที่นายกฯ ให้กำลังใจสู้ต่อ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สาเหตุที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต กำหนด 3 กลุ่มแนวทางในการจ่ายเงินนั้น เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  ได้มีการยื่นข้อเสนอให้ดูแลเฉพาะกลุ่มเปราะบางเท่านั้น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15-16 ล้านคน เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจและการบริโภคเริ่มฟื้นตัวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมีความเห็นต่าง เนื่องจากมองว่าประชาชนยังมีความเดือดร้อน และการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพใหญ่ยังมีความสำคัญ หากใช้เม็ดเงินงบประมาณลงไปเพียง 1.5 แสนล้านบาท ยังอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ

คนรายได้สูงลุ้นสิทธิ์ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

ทั้งนี้ยอมรับว่า จากผลการประชุมคณะอนุกรรมการสรุป 3 แนวทางในการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างมาก โดยยืนยันว่า ไม่หนักใจ เข้าใจ ไม่มีปัญหา เพราะต้องรับฟังเสียงให้รอบด้าน และขอชี้แจงว่า ข้อสรุปจากการหารือชั้นคณะอนุกรรมการใน การตัดกลุ่มผู้ได้สิทธิ์ ถือว่ายังไม่เป็นที่สิ้นสุด ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่งตามมติคณะอนุกรรมการ ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน คาดว่าจะมีการประชุมสัปดาห์หน้า

สำหรับการพิจารณากลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์ เป็นการมองปัญหาที่แตกต่างกันของคณะอนุกรรมการ โดยฝั่งรัฐบาลมองว่า มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจยังโตไม่เต็มศักยภาพ ประชาชนยังมีความเดือดร้อน

ซึ่งถ้าถามความเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยที่จะดูแลเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่ก็เห็นว่าควรตัดกลุ่มผู้มีรายได้ ที่ได้เงินไปแล้ว แต่ไม่เกิดการใช้จ่าย ดังนั้น ทางเลือกที่มีรายได้เกิน 50,000 บาท หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท น่าจะมีความเหมาะสมที่สุด

 

 

 

 

สำหรับ  3 แนวทางที่จะเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ คือ 1.ให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่มเปราะบาง ราว 15-16 ล้านคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท

2.ตัดกลุ่มผู้มีรายได้โดยวัดจากการยื่นแบบเสียภาษี เฉลี่ยเกิน 25,000 บาทต่อเดือน และมีบัญชีเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.3 แสนล้านบาท

3.ตัดกลุ่มผู้มีรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือน หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.9 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้หรือไม่ เป็นการเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา หรือไม่ รมช.คลัง กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนเป็นการบรรเทากลุ่มเปราะบาง ยืนยันว่า เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนกรอบการทำงานจะมากน้อย ถ้าบรรลุวัตถุประสงค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเรื่องที่รับได้

นอกจากนี้ได้พบกับนายกรัฐมนตรี ในช่วงตอบกระทู้ที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้เดินไปพูดคุย และรายงานความคืบหน้าผลสรุปคณะอนุกรรมการ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้กำหนดกรอบการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว  โดยนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ตบบ่า ให้กำลังใจ ไม่ได้พูดอะไร และยิ้มให้ ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเป็นนักการเมือง ก็ย่อมต้องเจอสถานการณ์แบบนี้

logoline