นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Online ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “ฟื้นตัวต่อ” คาดแรงหนุนมาจากความชัดเจนการเมืองในประเทศ และมาตร การกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ขณะที่ SET อยู่ในจุดพร้อมฟื้นตัวอิง Valuation มีส่วนลด Equity Risk Premium อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย มองกลุ่มนำตลาด1. หุ้น Domestic มีแรงหนุนความเชื่อมั่นฟื้น หากการเมืองชัดเจน (ธนาคาร, ค้าปลีก, สื่อสาร, โรงไฟฟ้า) หุ้นเด่นมอง BBL, TTB, CPAXT, CRC, TRUE, THCOM, GULF
2. หุ้นลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน หุ้นเด่นมอง KCE, HANA, IVL, PTTGC, AMATA, WHA ประเมินกรอบแนว ต้านแรกที่ 1,530 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,545 จุด แนวรับที่ 1,491 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,477 จุด
สำหรับปัจจัยที่ติดตามมีดังนี้ตัวเลขเงินเฟ้อมิ.ย.ของไทย 5 ก.ค. ตลาดคาด +0.2%y-y จากเดิมอยู่ที่ 0.53% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ตลาดคาด +1.4%y-y จากเดิม 1.55% y-y และติดตามความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย รวมถึงตำแหน่งสำคัญนายกรัฐมนตรี, ประธานสภา และรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ
ส่วนต่างประเทศนั้นวันที่ 6 ก.ค. ติดตามรายงานประชุม FOMC รอบ มิ.ย.ที่ผ่านมา วันที่ 7 ก.ค. ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร มิ.ย. อัตราการว่างงานเดือน มิ.ย. ตลาดคาด 3.6% จากเดิมอยู่ที่ 3.7% ค่าแรงเฉลี่ยรายชม. ตลาดคาด 4.2%y-y จากเดิมอยู่ที่ 4.3%
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงทิศทางภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน พ.ค. ออกมาที่ 3.8%YoY , 0.1%MoM สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consen sus คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม Core PCE รายงานออกมาที่ 4.6%YoY , 0.3%MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 4.7%YoY องค์ประกอบภายในพบว่าราคาสินค้าภาพรวมลดลงเหลือ 1.1%YoY และราคาสินค้าไม่คงทนขยายตัวเพียง 1.3%YoY ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.9%YoY
นอกจากนี้ราคาอาหารยังขยายตัวเพียง 5.8%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 6.9%YoY โดยราคาสินค้าที่ปรับลงแรงได้แก่การให้บริการเกี่ยวกับราคาพลังงาน (-3.9%YoY) จากเดือนก่อนหน้าขยายตัว 0.7%YoY ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 10 และ 2 ปีค่อนข้างทรงตัว
ขณะที่ CME FED Watch ก็ยังคงให้น้ำหนักระดับสูงราว 87% ที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สะท้อนว่าการรายงานเงินเฟ้อไม่ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดเท่าใดนัก ส่วนในประเทศช่วงบ่ายวันศุกร์ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดพบว่าขาดดุล 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แย่กว่าที่ Bloomberg คาดว่าจะขาดดุลเพียง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับเศรษฐกิจไทยพบว่าอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยขยายตัวทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สำหรับการลงทุนภาครัฐขยายตัวทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วฟื้นตัวต่อเนื่อง มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอิงการบริโภค (BJC, CPALL ,HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL , KTB ,KBANK ,SCB)
ส่วนสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับ 1.เงินเฟ้อไทย Bloom berg ประเมินไว้ที่ 0.2%YoY 2.การเลือกประธานสภาฯ ข้อมูลล่าสุดระบุว่าจะอยู่ในวันที่ 4 ก.ค. หากพรรคก้าวไกลได้ประธานสภาฯก็เชื่อว่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้น
สำหรับต่างประเทศวันจันทร์ทั้งสหภาพยุโรปหรืออียู และสหรัฐฯ จะมีการรายงาน PMI ซึ่งส่วนใหญ่ยังเห็นภาวะหดตัว ขณะที่ภาคแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินการจ้างงาน 2.2 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.6%
โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้ที่ 1,490 – 1,525 จุด เชิงกลยุทธ์เลือก Top Pick ได้แก่ PTTEP (TP 162) BBL (TP 190) CPN (TP 83) AOT (TP 82) KTB (TP 21.4)