svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

บีโอไอเคาะ! งบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้าน เสริมแกร่งโครงการด้านพลังงาน – ดิจิทัล

20 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บอร์ดบีโอไอ อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งในด้านพลังงานและดิจิทัล เผยบริษัทต่างชาติสนใจเลือกไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ จากมาตรการใหม่

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมมูลค่า 56,615 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐานในด้านพลังงานของประเทศ เช่น โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มูลค่าเงินลงทุน 32,710 ล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าระบบ Cogeneration ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างไทยและสิงคโปร์ มูลค่าเงินลงทุน 5,005 ล้านบาท

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับบริการด้านการจัดการ และ จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ขององค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้การส่งเสริมกิจการดาต้า เซ็นเตอร์ ขนาดใหญ่ 2 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวม 10,371 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างอังกฤษและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกิจการดาต้า เซ็นเตอร์ ที่เน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและจะใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลด Carbon Footprint ด้วย

บีโอไอเคาะ! งบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้าน เสริมแกร่งโครงการด้านพลังงาน – ดิจิทัล

ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้การส่งเสริมโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น โครงการผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการผลิตโลหะทองคำและเงินภายใต้รูปแบบโลหะผสม และโครงการกำจัดของเสียอุตสาหกรรม มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 8,500 ล้านบาท

“จะเห็นได้ว่า โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในครั้งนี้ เป็นโครงการที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งพลังงาน และดิจิทัล รวมทั้งกิจการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการโยกย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย  อีกทั้งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการเป็นดิจิทัลฮับของประเทศไทย ” นายนฤตม์กล่าว

เผย เอกชนสนใจ ตั้งสำนักงานภูมิภาค

ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บีโอไอ ร่วมกับกรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เปิดให้บริการระบบ HQ Biz Portal ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาค และระบบนัดหมายออนไลน์ รวมทั้งได้จัดตั้งทีมงานร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย 

ทั้งนี้ บีโอไอได้ส่งเสริมการลงทุน กิจการสำนักงานภูมิภาคมาตั้งแต่ปี 2543 มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมกว่า 500 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท โดยบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นมีสัดส่วนโครงการที่ได้รับการส่งเสริมสูงสุด 40%  รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และฮ่องกง ตามลำดับ โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม 3 อันดับแรก ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ตามลำดับ 

  บีโอไอเคาะ! งบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้าน เสริมแกร่งโครงการด้านพลังงาน – ดิจิทัล

ปรับหลักเกณฑ์ ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ 15 สาขาของ LTR Visa

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ปรับปรุง คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติ ที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษสู่ประเทศไทย (Long-Term Resident Visa: LTR Visa) ในสาขาที่ประเทศยังขาดแคลน (Highly Skilled Professional) รวม 15 สาขา ดังต่อไปนี้

  1. อุตสาหกรรมยานยนต์
  2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  3. อุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับคุณภาพ
  4. อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ
  5. อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์
  6. อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์
  7. อุตสาหกรรมการบิน อากาศยานและอวกาศ
  8. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
  9. อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
  10. อุตสาหกรรมดิจิทัล
  11. อุตสาหกรรมการแพทย์
  12. อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
  13. อุตสาหกรรมที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยตรง เช่น การผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
  14. ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC)
  15. อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องทำงานโดยใช้ทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น นักวิจัยในสาขาอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีเป้าหมาย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบดิจิทัล การเงิน สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญในโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัป รวมทั้งองค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ

 “การเพิ่มและปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa ในครั้งนี้ เพื่อให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย และทักษะความเชี่ยวชาญในสาขาที่มีความสำคัญและประเทศยังขาดแคลน เพื่อเข้ามาทำงานร่วมกับบุคลากรไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และการพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุนของไทยได้ในระยะยาว โดยปัจจุบันมีชาวต่างชาติมายื่นขอ LTR Visa แล้วกว่า 3,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน จีน และยุโรป” นายนฤตม์กล่าว

บีโอไอเคาะ! งบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้าน เสริมแกร่งโครงการด้านพลังงาน – ดิจิทัล

logoline