svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ส่อง 5 หุ้นหลบภัยรับมือตลาดผันผวนตัวไหนเด่น !

07 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บล.กสิกรไทยประเมินหุ้นไทยระยะสั้นยังผันผวน มองกรอบดัชนี 1,585-1,666 จุด ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร-การว่างงานสหรัฐฯ  แนะลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ขณะที่บล.พายมอง set ยังต้องเผชิญหลายความเสี่ยง เน้นลงทุนหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยกับ Nation Online ว่าตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดแกว่งในกรอบ 1,585-1,666 จุด ประเมินตลาดจะยัง Wait &see  รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยคือ วันที่ 10 มี.ค. Nonfarm Payroll หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรตลาดคาด 2.15 แสนราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.1 แสนราย และตัวเลข Wage growth หรืออัตราการว่างงาน  ตลาดคาด 0.3%MoM

ถัดไปคือ 14 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อ CPI ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 5.9%YoY จาก 6.4% ในเดือนก่อนหน้า , 0.4%MoM    23 มี.ค.ประชุม Fed  KS ประเมินว่า

1. หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานสูงกว่าที่ตลาดประเมินลักษณะคล้ายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา คือ แกว่งตัวลง โดยเราประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ Fed จะกลับลำมาเพิ่มดอกเบี้ย 50bps โดยประเมิน Downside ของ SET Index ที่ 1,585 จุด และคาดการณ์เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นต่อ คาดกรอบ 36.0 - 36.5 บาทต่อดอลลาร์  

2.ในทางตรงข้ามหากเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานชะลอตัว คาดว่า SET มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นในกรอบ 1,666 จุด ( +/-)  พร้อมประเมินค่าเงินบาท 33.5-34.0 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นคาดตลาดหุ้นไทยจะยังผันผวน โดยหน้าหุ้นลงทุนประเมินตลาดจะเลือกโฟกัสไปที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อาทิ ธีมจีนเศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นหลัก ทำให้สัปดาห์นี้ยังแนะนำหุ้นที่เชื่อมโยงกับประเทศจีน อาทิ  SCGP ราคาพื้นฐาน 52.0  บาท  PSL ราคาพื้นฐาน 18.5  บาท  PTTGC ราคาพื้นฐาน 57.25 บาท  โดยแนะนำให้มีจุดคัทลอสในการลงทุน

 

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวกับ Nation Online ว่า บรรยา กาศการลงทุนเริ่มดูผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับขึ้นของ Dow Jones ในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ มองการปรับฐานลงมาของ SET INDEX จากจุดสูงสุดถึงล่าสุดราว 4.6%  ตลาดรับรู้ข่าวประเด็นลบด้านผลประกอบการและตอบรับกับเงินเฟ้อสหรัฐฯไปพอสมควร ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหรือบอนด์ยิลด์ ก็เริ่มชะลอตัวลง จึงเชื่อว่า SET จะเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง

แต่ยังให้น้ำหนักเป็นเพียงการฟื้นตัวช่วงสั้น เนื่องจากระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญติดตาม 1. วันอังคารประธาน FED กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินครึ่งปีต่อคณะกรรมการใน Washington DC เชื่อว่าตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากส่งสัญญาณผ่อนคลายตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อ

2.วันพุธสหรัฐฯมีกำหนดรายงานการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP Bloomberg คาดไว้ที่ 1.95 แสนราย หากต่ำกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น 3. การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสำคัญเพราะมีผลสูงกับตลาด Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.06 แสนราย อัตราการว่างงานที่ 3.4% หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

สำหรับในประเทศติตตามเงินเฟ้อไทยประจำเดือน ม.ค. ในช่วงเช้าวันอังคาร Bloomberg คาดไว้ที่ 4.1%YoY หากต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาทและทิศทาง Foreign Fund Flow ในส่วนของ Sector ที่น่าสนใจสำหรับการ Trading ในการฟื้นตัวมองไปที่ Domestic Play เนื่องจากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศค่อนข้างชัดเจน

ในเชิงกลยุทธ์เลือก Bank (BBL ,KBANK ,SCB, TTB ,TISCO) ค้าปลีก (BJC ,CRC, CPALL ,HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT, MINT, SHR ,VRANDA) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ขนส่ง (BEM) โรงไฟฟ้า (BGRIM ,GPSC, GULF RATCH) เครื่องดื่ม (ICHI) ร้านอาหาร (M) สินค้า IT (COM7) ประเมินกรอบ SET สัปดาห์นี้ที่ 1,590 – 1,630  จุด หุ้นเด่นวันนี้เลือก CPALL (TP 72) AOT (TP 78)

 

logoline