นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,670.34จุด ลบ 10.15 จุด หรือ 0.60% ระหว่างวันดัชนีซื้อขายสูงสุด 1,684.75 จุด และต่ำสุดที่ 1,667.79 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,528.17 ล้านบาทกับ Nation Online ว่า หุ้นไทยปิดลบรับแรงกดดันจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจาก KCE รายงานกำไรที่ต่ำกว่าตลาดประเมินไว้ส่งผลกระทบต่อหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่ม ซึ่ง DELTA ปรับลง 4.12% ซึ่งมีผลต่อดัชนี 4 จุด KCE ลง 11.40% มีผลต่อดัชนี 0.6 จุด
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่า ต่างประเทศขายสุทธิ 3,973.07ล้านบาทสถาบันขายสุทธิ 211.50 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 3,990.13ล้านบาทบัญชีบล. ซื้อสุทธิ 194.44 ล้านบาท
ส่วนปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2 ล้านบาร์เรล หากต่ำกว่าตลาดคาดการณ์จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันดิบ แต่หากเพิ่มสูงกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดันตลาด
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้อาจมีโอกาสฟื้นตัวได้บ้างจากการปรับฐานในวันนี้ แต่ยังคาดหวัง Upside ได้ไม่มาก เพราะยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ และตลาดหุ้นก็รับรู้ปัจจัยบวกไปเยอะประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ที่ 1,660-1,677 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นย้ำถึงการเพิ่มครองเงินสด พร้อมเลือกหุ้นที่เป็น Defensive อาทิ โรงพยาบาล (BCH ,BDMS ,CHG) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH) รวมไปถึง Domestic Play ที่ได้ประโยชน์ฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย อาทิ ค้าปลีก (BJC ,HMPRO) ท่องเที่ยว (MINT) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KCE มูลค่าการซื้อขาย 5,038.45 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 6.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,620.40 ล้านบาท ปิดที่ 930.00 บาท ลดลง 40.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,616.97 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,479.82 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,400.29 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.20 บาท