รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำปิดตลาดวันนี้ ปรับขึ้นร 2 ครั้ง รวม 300 บาท โดยครั้งที่ ปรับขึ้น 200 บาท และ ครั้งที่ 2 ปรับขึ้นอีก 50 บาท โดยราคา gold spot นิวยอร์กขยับขึ้นอยู่ที่ 1,957.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 1,952.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่ระดับ 32.71 บาทต่อดอลลาร์
ส่งผลให้ราคาทองคำราคาสุด ปรับขึ้นดังนี้
ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 30,150 บาท ขายออกบาทละ 30,250 บาท
ราคาทองรูปพรรณซื้อบาทละ 29,607.48 บาท ขายออกบาทละ 30,750 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างมีนัยสำคัญหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ประธานเฟดได้มีถ้อยแถลง ถึงทิศทางที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ต่ำกว่าระดับ 5%
ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะคงอยู่ที่ระดับ 5.1% จึงเป็นปัจจัยให้การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงทองคำปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก ไม่เพียงเท่านี้ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของแรงซื้อทองคำจากจีนหลังเปิดประเทศ รวมถึงแรงขายจากกองทุน SPDR เริ่มชะลอ จึงทำให้ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
โดยในปีนี้ระยะกลาง - ระยะยาว YLG ประเมินเป้าหมายทองคำไว้ที่ 1,960-2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และยังคงแนะนำสัดส่วนการลงทุนของพอร์ตลงทุนรวมไว้ที่ 5-15% ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาพักตัว โดยให้แนวรับที่ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนแนวต้านที่1,966-1,983 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศประเมินการเคลื่อนไหวในกรอบบาทละ 29,500-30,750 บาท