svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

กูรูคาดยอดขาย"ทองคำ"เทศกาล"ตรุษจีน” พุ่ง 20%

08 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กูรูมองทิศทางทองคำช่วงตรุษจีน 2566 คึกคัก คาดยอดขายเพิ่ม 15-20%  ชี้ทองคำเป็นสินทรัพย์มั่นคง แม้ความผันผวนไม่มากเหมือนหุ้น แต่ยังให้ผลตอบแทนดี

นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการ บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด เปิดเผยกับ Nation Online ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 คาดว่าการซื้อขายทองคำย่าน เยาวราช และทั่วประเทศคึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเชื้อสายจีนจะนิยมซื้อทองเป็นของขวัญให้กับ พ่อแม่ พี่น้อง และญาติมิตร  

ทั้งนี้ประเมินว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น15-20% แต่ผลิตภัณฑ์ทองคำที่ซื้อ โดยเฉพาะทองรูปพรรณอาจมีขนาดเล็กลง จากที่เป็นสร้อยคอ สร้อยแขนก็อาจเปลี่ยนเป็นจี้ หรือแหวน เป็นต้น เนื่องจากประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการฟื้นตัว

“ก่อนปีใหม่ยอดขายทองดีขึ้น แต่พอหมดเทศกาลปีใหม่ยอดขายหน้าร้านที่เยาวราชก็ลดลง  คาดว่าจะคึกคักอีกทีก็เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนราคาจะปรับขึ้นหรือไม่ขึ้นกับราคาในตลาดนิวยอร์ก และเงินบาทในช่วงนั้นว่าแข็งค่าหรืออ่อนค่า ”  

สำหรับนักลงทุนที่จะซื้อทองคำแท่งเก็งกำไรหากราคาปรับตัวลงอยู่ระดับ 29,000-29,500 บาท ก็ให้ค่อย ๆ ทยอยสะสม เพราะถ้าราคาปรับขึ้นไป 30,000 บาทก็อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง นอกจากนี้ที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำมองทิศทางราคาทองคำในปี 66 ว่า ทองคำแท่งน่าจะไปยืนอยู่ที่ 32,000 บาท ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มรอดูสถานการณ์เช่นกัน

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา เช่น สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนปี 62 การแพร่ระบาดโควิดในปี 63  และสงครามรัสเซีย-ยูเครนในปี 65 ทำให้ราคาทองคำแท่งปรับขึ้นสูงจากเดิมที่อยู่ระดับ 18,000 -19,000 บาทเพิ่มเป็น 30,000 บาท จากความไม่นอนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์  

ขณะเดียวกันในปี 65 ที่ผ่านมาราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเคยปรับขึ้น 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ค่าเงินบาทช่วงปลายปีแข็งค่า 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาทองคำแท่งแตะที่ระดับ 29,400-29,500 บาท จากที่เคยขึ้นไป 30,000 กว่าบาท

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์มั่นคงที่สามารถแปลงสภาพได้ทันที แม้ความผันผวนไม่ได้มากเหมือนกับหุ้นที่ขึ้น-ลงได้มาก แต่ก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดี
 

กูรูคาดยอดขาย"ทองคำ"เทศกาล"ตรุษจีน” พุ่ง 20%

นอกจากนี้ต้องระวังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จะทำให้ราคาทอง คำปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ 4.25-4.50%  คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้  เพราะหากขึ้นมากเกินไปอาจกระทบเศรษฐกิจ และมองว่าในปี 66 เฟดจะลดดอกเบี้ยลงจะหนุนให้ทองคำปรับราคาขึ้น  

สำหรับแนวโน้มทองคำในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะปรับตัวลง หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.65 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่งส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%

สำหรับ Gold spot ตลาดนิวยอร์ก แนวรับ (การเข้าซื้อ) อยู่ที่ 1,815 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งอยู่ที่ 29,350 บาท แนวต้าน (การขาย) อยู่ที่ 1,850- 1,855 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำแท่งอยู่ที่ 30,050-30,100 บาท

logoline