svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'คนละครึ่งพลัส' เงินสะพัด 2.9 หมื่นล้าน ร้านค้าร่วม 8.9 แสนราย

คลังเตือน 4 แสนราย เริ่มใช้จ่าย 'คนละครึ่งพลัส' ครั้งแรกภายในวันนี้ ก่อนถูกตัดสิทธิ ล่าสุดยอดใช้จ่ายทะลุ 2.9 หมื่นล้าน ร้านร่วมโครงการ 8.9 แสนราย ระงับสิทธิ 78 ราย

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) โดย ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการฯ สำเร็จแล้วกว่า 19.61 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 29,683.8 ล้านบาท 

โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้จ่ายผ่านร้านค้าทั่วไปจำนวน 14,833.80 ล้านบาท และใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) จำนวน 201.50 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายร้านค้าทั่วไปจำนวน 14,455.30 ล้านบาท และร่วมจ่ายผ่าน Food Delivery Platform จำนวน 193.20 ล้านบาท 

'คนละครึ่งพลัส' เงินสะพัด 2.9 หมื่นล้าน ร้านค้าร่วม 8.9 แสนราย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท สำหรับความคืบหน้าของการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น.  มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วจำนวน 893,196 ราย 
 

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า ประชาชนจะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ โดยขณะนี้พบว่า มีประชาชนที่ยังไม่สมัครใช้บริการ G-Wallet เพื่อใช้สิทธิในโครงการฯ ประมาณ 127,800 ราย จึงขอให้รีบดำเนินการสมัครและใช้สิทธิ หรือติดต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยดำเนินการสมัครและใช้งาน G-Wallet และเร่งใช้สิทธิภายในกำหนดเวลาต่อไป

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังแจ้งข้อมูลว่า จากการติดตามตรวจสอบพฤติการณ์ของร้านค้าในสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมกับการวิเคราะห์ธุรกรรมของร้านค้าด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Analytics) กระทรวงการคลังได้ระงับสิทธิการเข้าร่วมโครงการฯ ของร้านค้าแล้วเป็นจำนวน 78 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568) เนื่องจากมีพฤติการณ์รับแลกเงินและสแกนรับเงินห่างจุดขายแบบผิดปกติ จึงขอย้ำเตือนว่า กระทรวงการคลังจะดำเนินการเอาผิดกับร้านค้าที่ทุจริตในโครงการฯ อย่างถึงที่สุดต่อไป