
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแพ็กเกจมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) สัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือ SME ให้ความครอบคลุมมากกว่าการเสริมสภาพคล่อง มีเป้าหมายหลักช่วยผู้ประกอบการปรับตัวให้มีขีดความสามารถแข่งขันได้ และปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์การส่งออกปี 2569 ที่แนวโน้มลดลง โดยสนับสนุน SME ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ลดต้นทุนการผลิต และใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation) รวมทั้งกระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการโดยใช้กลไกต่างๆ ประกอบด้วย
1.สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในการสนับสนุนด้านสินเชื่อ จะมีการออกซอฟต์โลน (Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
2.มาตรการภาษีโดยจะมีการใช้เครื่องมือทางภาษี มาตรการช่วยลดหย่อนภาษีพี่ช่วยน้อง สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่ซื้อสินค้าจาก SME ที่อยู่ในซัพพลายเชนจะสามารถนำยอดซื้อมาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งมาตรการนี้จะกระตุ้นให้บริษัทใหญ่ช่วยสนับสนุน SME ในประเทศ และจะเร่งดำเนินการคืนเงินภาษีให้ผู้ประกอบการเร็วขึ้น
3.พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล แสดงผลคำสั่งซื้อที่สั่งซื้อของ SME ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถประเมินและอนุมัติสินเชื่อช่วยให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินได้สะดวกขึ้น
นอกจากมาตรการด้านการเงินและภาษีแล้ว รัฐบาลยังเตรียมมาตรการป้องกันเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยไม่เสียเปรียบ โดยเฉพาะการใช้ภาษีศุลกากรเพื่อป้องกันสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่เข้ามาตีตลาดไทย
นายเอกนิติ เปิดเผยถึงมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ว่า ได้หารือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อแก้หนี้ของเกษตรกรเป็นการเฉพาะ เนื่องจากปัญหาหนี้เกษตรกรแตกต่างจากหนี้ครัวเรือนทั่วไป ซึ่งมีลักษณะหนี้ที่เฉพาะกาลที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ฟ้าฝน ฤดูกาล และการเพาะปลูก
ทั้งนี้ สั่งการให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการจัดตั้ง บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ขึ้นมาใหม่ภายในองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดการหนี้ลักษณะเดียวกับการแก้หนี้ครัวเรือนทั่วไป แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมเฉพาะของกลุ่มเกษตรกร โดยการตั้ง AMC ของ ธ.ก.ส.จะมุ่งเป้าการแก้ไขหนี้ของเกษตรกรที่เป็นหนี้เสีย (NPL) จำนวนประมาณ 100,000 คน โดยมีมูลค่าหนี้รวมประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มหนี้คนตัวเล็กตัวน้อยในภาคเกษตรกร
นายเอกนิติเน้นย้ำว่า การแก้ไขหนี้ครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่จะต้องทำเพื่อให้เกษตรกรกลับมามีชีวิตใหม่ได้อย่างยั่งยืน โดย AMC จะเข้ามาช่วยในการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การตัดต้นเงิน ลดอัตราดอกเบี้ย และยืดอายุการชำระหนี้