
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดรับลงทะเบียนผู้ประกอบการร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่ 00.01 น. เป็นต้นไป ผ่านทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ในการลงทะเบียน สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน ลงทะเบียนผ่าน Thai ID Application เพื่อยืนยันตัวตน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามเงื่อนไขการใช้สิทธิ์โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งได้ที่ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” คือมุ่งกระตุ้นการเดินทางช่วงกรีนซีซัน (Green Season) กระจายพื้นที่ท่องเที่ยว และเพิ่มความถี่ในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว และกระจายรายได้ทางการท่องเที่ยว คาดช่วยสร้างประโยชน์จากโครงการและผลกระทบด้านเศรษฐกิจ มีนักท่องเที่ยวเดินทางจากโครงการไม่น้อยกว่า 100,000 คน สร้างรายได้ให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 14,125 ล้านบาท หนุนเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. 2568 เป็น 69.3 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2.67 ล้านคน-ครั้ง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมกว่า 35,033 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 40,669 คน และภาษีที่ภาครัฐได้รับกว่า 1,863 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของโครงการไทยเที่ยวคนละครึ่ง จำนวนสิทธิในโครงการ “ที่พัก 500,000 สิทธิ” ประชาชน 1 คน จะได้รับ 5 สิทธิ แบ่งเป็น เมืองหลัก 3 สิทธิ และเมืองน่าเที่ยว 2 สิทธิ ส่วน “คูปอง 500,000 สิทธิ” จะมอบคูปอง 500 บาท ต่อ 1 สิทธิ สามารถใช้ในร้านอาหาร กิจกรรมทางการท่องเที่ยว ฯลฯ ตามที่โครงการกำหนด และจะได้รับเมื่อเข้าพักเท่านั้น โดยกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิตั้งแต่เดือน ก.ค.-ต.ค. 2568
“เงื่อนไขการใช้สิทธิ” ค่าที่พักวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) รัฐสนับสนุน 50% ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ค่าที่พักวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐสนับสนุน 40% ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาท
ด้านเงื่อนไขการชำระเงิน ในส่วนของนักท่องเที่ยวจะชำระเงินส่วนแรกโดยตรงให้กับโรงแรมที่พัก สามารถชำระผ่านธนาคารได้ทุกธนาคาร ขณะที่เงื่อนไขการรับเงินของผู้ประกอบการ หลังจากนักท่องเที่ยวใช้สิทธิ และได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้ว จะโอนเงินส่วนที่รัฐสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น
สำหรับ “แนวทางป้องกันการทุจริตในโครงการ” มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการ เพื่อบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยง และการตรวจจ่ายงบประมาณนอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID รวมไปถึงการยืนยันการเช็กอินและเช็กเอาต์ ณ โรงแรมที่พัก และใช้แอปพลิเคชัน Amazing Thailand ในการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของโครงการ อาทิ การจอง การชำระเงิน ตรวจสอบความผิดปกติในการใช้คูปอง