svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ททท. จ่อหั่นเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือไม่ถึง 37 ล้านคน

ททท. ชี้แจงตลาดทุน เล็งลดเป้านักท่องเที่ยวปีนี้เหลือต่ำกว่า 37 ล้านคน คาดอาจเหลือเท่าปีก่อน 35.54 ล้านคนหลังช่วง 4 เดือนแรกติดลบ 0.2% นักท่องเที่ยวจีนหาย 30%

นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในงาน โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ครั้งที่ 3/2568 “ททท.พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน” จัดโดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุว่ามีแนวโน้มสูงที่จะต้องปรับลดตัวเลขเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 ลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเข้ามา 37.46 ล้านคน และรายได้รวม 3.4 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจลดลงเหลือ 35.54 ล้านคน เท่า ๆ กับปีที่แล้ว ด้านรายได้รวมปีนี้คาดว่ายังอาจเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ราว 2.97 ล้านล้านบาท 

ส่วนนักท่องเที่ยวจีนคาดเข้ามาแค่ 4 ล้านคน โดยหลังจากช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) พบว่านักท่องเที่ยวในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือลดลงไป 20% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงถึง 30% ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติติดลบอยู่ 0.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน 

จากสถิติในปี 67 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากที่สุด รองลงมาคือไปญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่า นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุด จากปัจจัยเรื่องค่าเงินเยน และเดินทางง่าย ใกล้ รองลงมาคือเดินทางไปเวียดนาม จากปัจจัยกรุ๊ปทัวร์ที่ไหลจากไทยไป ส่วนไทยร่วงลงมาอยู่อันดับ 3 ดังนั้น จะต้องดึงนักท่องเที่ยวกรุ๊ปที่ไหลไปกลับมา
 

ททท. จ่อหั่นเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือไม่ถึง 37 ล้านคน

นายธีระศิลป์ กล่าวว่า ภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัยของไทย จากทั้งเรื่องเหตุการณ์การลักพาตัวชาวจีน การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ต่างชาติ การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน การก่อวินาศกรรมในสุไหงโกลก และเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทย ส่งผลให้กระทบ Sentiment นักท่องเที่ยวจีนหายไป และลามไปถึงฮ่องกง รวมไปถึงไต้หวัน และเกาหลีด้วย

“นอกจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ก็ยังมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีที่ลดลงด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างมอนิเตอร์ เพราะสองประเทศนี้อยู่ใกล้จีน ซึ่งจีนมีนโยบายเร่งดึงนักท่องเที่ยว ทั้งให้คนจีนเที่ยวในประเทศ และดึงนักท่องเที่ยวอินบาวด์เข้ามาโดยให้การสนับสนุน ซึ่งบริษัททัวร์ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่เป็นลูกค้าของจีนก็เป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกับไทย” 

ททท. จ่อหั่นเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือไม่ถึง 37 ล้านคน

สำหรับแผนการดำเนินงานของ ททท. ในปีนี้คือ 1. รักษาการเติบโตตลาดจีน โดยแก้ไขภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย และเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยขอสงวนไว้ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่จะโฟกัสไปที่ตัวโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งกระตุ้นการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ โดยสนับสนุน Charter Flight และ Incentive Group จากตลาดเมืองรอง รวมถึงกระตุ้นการเดินทางกลุ่ม FIT ร่วมกับ OTA และบริษัทนำเที่ยว เน้นกลุ่มครอบครัว และ Millennial  นอกจากนี้สนับสนุนโครงการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูต 50 ปี “ไทย-จีน”

2. จัดหาตลาดทดแทน (Relocation) โดยเน้นเพิ่มจำนวน Quality Leisure, Family และ Incentive ในตลาดระยะใกล้ 9 ตลาด และระยะไกล 15 ตลาด โดยมุ่งเน้นเอเชียใต้และอาเซียนบางประเทศที่ช่วง 4 เดือนแรกยังเป็นบวกสูง เช่น อินโดนีเซีย, ฟลิปปินส์, สิงคโปร์, อินเดีย, ศรีลังกา รวมถึงกลุ่มประเทศฝั่งยุโรปให้เข้ามาเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ททท. จ่อหั่นเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือไม่ถึง 37 ล้านคน

3. การขยายตลาดกลุ่ม High Value มุ่งเน้นกลุ่ม Health and Wellness, Yacht, Sport และ Digital Nomad ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงขึ้น เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวฝั่งตะวันออกกลาง อินเดีย ยุโรป

และ 4. สื่อสาร 360 องศาผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และจัดอีเวนต์ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจัดกิจกรรมเทศกาล ดนตรี กีฬา และวัฒนธรรมตลอดทั้งปี

ส่วนตลาดในประเทศ เน้นกระจายรายได้สู่เมืองรอง ส่งเสริมการเดินทางวันธรรมดาเพื่อลดความแออัด และสื่อสารภาพลักษณ์ “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” และยังจะมีโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่จะดำเนินการได้ในช่วงเดือน มิ.ย. 2568 ไปจนถึงเดือน ก.ย. หรือเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนครอบคลุมช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน โดย ททท. จะเป็นหน่วยงานรับงบประมาณเพื่อมาดำเนินการ ซึ่งได้งบมาประมาณ 2,000 ล้านบาท

โดยนักท่องเที่ยวไทยหากเข้าพักวันธรรมดาจะได้ราคาที่ดีกว่าการเที่ยวในวันหยุด และรัฐจะเข้าไปซับซิไดซ์ให้มากกว่าวันหยุดด้วย เพราะแรงกระตุ้นต่างกัน ทั้งนี้กำหนดเบื้องต้นจะให้สิทธิทั้งหมด 6 แสนสิทธิ เพื่อป้องกันการอัพราคาค่าห้อง การฉ้อโกง ครั้งนี้คงจะมีการออกกฎเกณฑ์มากำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น เพราะเคยเห็นปัญหาของโครงการในอดีตแล้ว

ประเด็นที่ต้องติดตามต่อซึ่งอาจส่งผลต่อการท่องเที่ยวไทยในปีนี้คือ 1. ปัญหาสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐกับจีน รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน 2. ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา 3. การเรียกคืนความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของไทย โดยต้องไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำ 4. ปัญหาภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ