เจาะวงจร มังกรศูนย์เหรียญจีน อุตสาหกรรม – ธุรกิจทุนจีนในไทย
ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทยปัจจุบัน พบการเข้ามาแผ่ขยายฐานของกลุ่มทุนจีนมากขึ้น ซึ่งมีทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายที่เรียกกันว่าจีนเทารวมอยู่ด้วย
ปัจจุบันหลายฝ่ายหันมาสนใจการทำธุรกิจของกลุ่มทุนจีน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวส่งผลให้ตึก สตง.ถล่ม โดยพบว่าการก่อสร้างดำเนินการโดย กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งเป็นบริษัททุนจีน และในเวลาต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษแล้ว
กลุ่มทุนจีนในไทย เข้ามาทำอะไรบ้าง ธุรกิจ อุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทางเข้าประเทศและการพำนัก
ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
- อาศัยช่องโหว่ “ฟรีวีซ่า” เข้าไทยไม่ต้องขอวีซ่า พำนักได้ 6 เดือน ครบแล้วก็กลับออกไป (ข้ามเข้า-ออกแถวจังหวัดชายแดน) เรียกว่าออกไปเพื่อจ็อบพาสปอร์ต และย้อนเข้ามาใหม่
- สวมวีซ่านักเรียน ชาวจีนจำนวนหนึ่งใช้วีซ่านักเรียนเพื่อเข้ามาศึกษาในประเทศไทย แต่แท้จริงแล้วมีการลักลอบทำงาน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
- พำนักอยู่นานๆ ก็แต่งงานกับคนไทย เพื่อให้มีสิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์
- บางรายเข้าขบวนการทำบัตรประชาชนปลอม เพื่อประกอบธุรกิจ และครอบครองทรัพย์สินได้เหมือนเป็นพลเมืองไทย
กิจการ - โรงงาน - บริษัท
- โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นของ “กลุ่มทุนจีน” ใช้ “ทุนจีน” จะใช้สินค้าหรือวัตถุดิบที่นำเข้าจากจีนทั้งหมด แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ยกเว้นเหล็ก กับปูน ใช้วิธีผลิตในไทย แต่นำเข้ากากอุตสาหกรรมจากจีนเข้ามาผลิต
- ส่วนใหญ่ใช้บุคลากรของจีนเกือบทั้งหมด เช่น อ้างว่าเป็นวิศวกรมาควบคุมเครื่องจักร แต่แท้จริงแล้วมาทำงาน 100% แม้กระทั่งฝ่ายบุคคลก็เป็นคนจีน
- โรงงานอุตสาหกรรม “ทุนจีน” จะใช้เครื่องจักรสำเร็จรูป 100% นั่นหมายถึงไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใดๆ ให้กับคนไทย การจ้างแรงงานคนไทย มีหน้าที่แค่นำวัตถุดิบใส่เครื่องจักรที่คนจีนคิดประดิษฐ์มาแล้ว แรงงานไทยจะเป็น “แรงงานไร้ฝีมือ” ไม่มีวันเป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือ
- จ่ายค่าจ้างแค่ค่าแรงขั้นต่ำ หรือกดให้ถูกกว่านั้น
- แรงงานไทยที่ไปสมัครงานในโรงงานอุตสาหกรรม “ทุนจีน” จะถูกบังคับให้เซ็นสัญญาว่าจ้างเป็นภาษาจีนทั้งหมด โดยคนไทยอ่านไม่ออก ไม่รู้สาระสำคัญในสัญญาส่งผลให้ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และเรียกร้องค่าชดเชยไม่ได้
ประเภทของกลุ่มทุนจีน
- มีทั้ง “ทุนจีนเทา” และ “ทุนจีนใส่สูท” เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก
- “ทุนจีนเทา” เป็นเครือข่ายธุรกิจสีเทาที่ทำธุรกิจในจีนไม่ได้ เพราะถูกกวาดจับอย่างหนัก
- “ทุนจีนเทา” บางส่วนเป็นแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ
- ทำบ่อนการพนันออนไลน์ เปิดเว็บไซต์พนัน และกาสิโนออนไลน์ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐาน
- บางส่วนทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และฟอกเงิน เปิดบริษัทบังหน้า
- บางส่วนเป็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ และแรงงานผิดกฎหมาย หลอกชาวต่างชาติมาทำงาน
- บางรายมีพฤติการณ์นำเข้าแรงงานชาวจีนเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายภายใต้การควบคุมของกลุ่มทุน
- “ทุนจีนเทา” อีกกลุ่มหนึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อฟอกเงิน ซื้อขายที่ดิน ซื้อหรือเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยให้ตนเองเป็นหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะคอนโดฯ แล้วนำไปปล่อยเช่าต่อ เพื่อฟอกเงิน
- ใช้อสังหาริมทรัพย์เหล่านั้น เช่น ห้องเช่า อาคาร เพื่อซุกซ่อนเงินที่ได้มาจากกิจกรรมผิดกฎหมาย
- “ทุนจีนใส่สูท” คือ การลงทุนแบบถูกกฎหมาย แต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เข้ามาผูกขาดธุรกิจ กว้านซื้อกิจการของคนไทย และอสังหาริมทรัพย์ในราคาถูก กดราคา เลือกกิจการใกล้เจ๊ง เพื่อต่อรองราคา
- ทำธุรกิจท่องเที่ยวแบบปิด พัฒนาจาก “ทัวร์ศูนย์เหรียญเดิม” ให้บริการเฉพาะคนจีน จัดการท่องเที่ยว เดินทาง กินอาหาร พักแรม และช้อปปิ้ง กับกิจการของคนจีนในเครือข่ายทั้งหมด จึงไม่มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่เศรษฐกิจไทย
ธุรกิจบริการที่ใช้แรงงานจีนเป็นหลัก
- สถานบันเทิง สถานบริการ ใช้คนจีนทำงานทุกตำแหน่ง แม้แต่เด็กเสิร์ฟ
- อุปกรณ์ที่ใช้ นำเข้าจากจีนทั้งหมด แม้แต่กระดาษทิชชู่ ก็ยังเป็นยี่ห้อจีน
- กิจการเข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น เปิดให้เสพยาได้ ก่อปัญหาในไทย และไม่เกิดการจ้างงานคนไทย
เหล่านี้เป็นวัฏจักร หรือ วงจรของ “มังกรศูนย์เหรียญ” ซึ่งทำร้ายเศรษฐกิจไทยและคนไทย ซ้ำเติมปัญหาที่ไทยเผชิญอยู่