svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'ศาลล้มละลาย' ตีตกข้อเสนอ คลังแก้แผนฟื้นฟูการบินไทย

ศาลล้มละลายกลาง ปัดตกข้อเสนอกระทรวงการคลัง ยื่นขอแก้ไขแผนฟื้นฟูการบินไทย ตั้ง 2 ตัวแทนผู้บริหารแผนเพิ่ม ชี้ปัจจุบันดำเนินธุรกิจตามกระบวนการฟื้นฟูดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตั้งผู้บริหารเพิ่ม ขณะที่ดีดีการบินไทยย้ำไม่กระทบออกจากแผนฟื้นฟูตามเป้าหมาย ไตรมาส 2 ปีนี้

วานนี้ (21 ม.ค.68) ศาลล้มละลายกลาง นัดฟังคำสั่งเกี่ยวกับข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2567 และต่อมาได้มีการนัดไต่สวนเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 เนื่องจากเจ้าหนี้ได้ยื่นคำร้องคัดค้านมติที่ประชุมเจ้าหนี้แก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ 

อย่างไรก็ดี ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณา และมีคำตัดสินให้การบินไทยดำเนินการแก้ไขแผนฟื้นฟูในแผน 1 และ 2 เนื่องจากมองว่าเป็นอำนาจของผู้บริหารแผนที่สามารถดำเนินการได้เอง ขณะที่แผน 3 ซึ่งเป็นแผนที่กระทรวงการคลังเสนอเพิ่มผู้บริหารแผน 2 คน ประเด็นนี้ศาลล้มละลายกลางไม่เห็นชอบ เนื่องจากพิจารณาว่าการบินไทยดำเนินธุรกิจตามกระบวนการฟื้นฟูประสบผลดีอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องตั้งผู้บริหารเพิ่มเติม 
 

\'ศาลล้มละลาย\' ตีตกข้อเสนอ คลังแก้แผนฟื้นฟูการบินไทย

แผนฟื้นฟูที่ศาลล้มละลายกลางตัดสินจำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย 

1.วาระขอลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อล้างผลขาดทุนสะสมหลักทรัพย์ที่มีประมาณ 60,000 ล้านบาท

2.วาระขอพิจารณาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟู โดยการบินไทยจะเสนอชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ก่อนกำหนด เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าจำนวนเงินปันผลที่จะมีการเสนอจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนั้นๆ 

3.วาระขอพิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู 2 ราย ประกอบด้วย นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่ง และจราจร กระทรวงคมนาคม และนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง

ด้านนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท จะนำเสนอรายงานคำสั่งศาลฯ เข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อให้ผู้บริหารแผนฯ รับทราบ และวิเคราะห์แนวทางดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะ กรณีความเห็นให้อำนาจผู้บริหารแผนฯ สามารถจ่ายเงินปันผล และลดราคาพาร์ เพื่อล้างผลขาดทุนบริษัท จึงยังคงเชื่อมั่นว่า บริษัท สามารถออกจากแผนฟื้นฟูฯ และกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้